เที่ยวม่อนแจ่ม ค้างแรมที่ ม้ง ฮิลล์ไทรบ์ ลอดจ์
เที่ยวม่อนแจ่ม ค้างแรมที่ “ม้ง ฮิลล์ไทรบ์ ลอดจ์”
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่นั้นมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ไปทั้งปีก็เที่ยวไม่ครบแถมยังมีที่เที่ยวใหม่ๆขึ้นมาให้รู้จักและอยากไปจนต้องเพิ่มไว้ในลิสต์อยู่เรื่อยๆ แต่จะมีอยู่บางที่ซึ่งไม่ว่าใครๆก็รู้จัก ไปกี่ครั้งก็ยังรู้สึกประทับใจ นั่นก็คือ “ม่อนแจ่ม” นับแค่ของเราเองไปม่อนแจ่มมาทั้งหมด 4 ครั้งแล้ว แต่ละครั้งก็จะมีสิ่งแปลกใหม่เพิ่มขึ้นมาให้ได้เห็นเรื่อยๆเลยล่ะค่ะ แต่ยังไม่เคยหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับม่อนแจ่มเลยสักครั้ง รู้แค่ว่ามีดอกไม้ มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ เป็นม่อนหรือภูเขาเล็กๆที่อากาศเย็นและไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ สำหรับครั้งนี้จึงตั้งใจหาข้อมูลจริงจังกันสักหน่อย แต่ก็ด้วยเพราะมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้จึง ‘อยากใช้เวลาอยู่แถบนี้นานๆและอยากหาที่พักแบบสวยๆนอนสบายๆอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ใหญ่ มีสระว่ายน้ำ มองเห็นวิวภูเขาไกลๆ มีนาข้าวให้ดูด้วย’ … ใครจะไปเชื่อว่าที่พักแบบที่ว่าจะมีอยู่จริง “ม้ง ฮิลล์ไทรบ์ ลอดจ์” ที่นี่คือคำตอบซึ่งมีทุกอย่างตามที่เราคิดเอาไว้ เราเดินทางมาในช่วงที่หลายๆพื้นที่เกี่ยวข้าวกันไปจะหมดแล้วแต่ที่นี่ยังมีนาข้าวเขียวๆให้เราชื่นชม
เมื่อมาถึงแล้วจะต้องเดินเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ทางนี้ค่ะ ร่มรื่นมากๆ ริมางเดินมีลำธารเล็กๆที่มีน้ำไหลผ่าน มีตุ๊กตาดินเผาเป็นน้องควายตัวจิ๋วๆอยู่สองตัวด้วย น่ารักจัง ^^
บริเวณลานจอดรถก็มีต้นไม้ใหญ่ ช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวแบบนี้กำลังบานดอกอวดสีสันสดใสให้เห็นกันเต็มต้นเลยด้วย สวยมากๆ
ห้องพักแต่ละหลังจะเป็นบ้านไม้ที่มีเสน่ห์มากๆ อยู่ท่ามกลางต้นไม้นานาพันธุ์ ร่มรื่น เราได้ห้องซึ่งอยู่ในหลังใหญ่เป็นหลังที่อยู่ด้านในสุดค่ะ
หลังนึงจะมี 4 ห้องอยู่ภายใน และมีห้องโถงอยู่ตรงกลาง พื้นที่ค่อนข้างกว้างเลยล่ะค่ะ มีให้เลือกทั้งเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ภายในห้องยังคงมีกลิ่นอายสไตล์ม้งให้ได้เห็น ทั้งโทนสี และของตกแต่ง เช่น ม่านหน้าต่าง โคมไฟ มีพัดลม ไม่มีแอร์ เพราะที่นี่มีอากาศเย็นอยู่ตลอด
ห้องน้ำในตัว ด้านในมีกั้นห้องโซนเปียกสำหรับอาบน้ำ โซนแห้งสำหรับอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ฝักบัวสามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อนเย็นได้
หน้าห้องน้ำเป็นชั้นวางผ้าห่มและเครื่องนอนเสริม หากมาในช่วงฤดูหนาว บางวันหนาวมาก ผ้าห่มตรงนี้จะจำเป็นมากๆค่ะ
และที่เราชอบมากๆเลยก็คือ มีระเบียงที่เปิดออกไปแล้วได้เห็นวิวสวยๆแบบนี้ สวยมาก สบายตามากๆเลย ได้เห็นทุ่งนาข้าว เห็นภูเขา บางจังหวะมีหมอกอยู่ปลายเขาให้ได้เห็นกันด้วย เป็นภาพที่ทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายได้เยอะเลยทีเดียว
เดินออกมาดูที่ห้องโถงส่วนกลาง มีเก้าอี้วางไว้ให้นั่งผ่อนคลายกันได้ตามอัธยาศัย มีส่วนที่สามารถก่อกองถ่านไฟเล็กๆได้ในยามที่อากาศหนาวเย็นจัด มีน้ำเปล่า กาน้ำร้อน และกาแฟวางไว้ให้ด้วย
พอค่ำลงก็ได้เวลามื้ออาหาร เรามาทานอาหารกันที่ห้องอาหารของที่นี่ บรรยากาศชวนให้รู้สึกเหมือนเราเป็นคนพิเศษ ด้วยการให้บริการที่ยิ้มแย้มแจ่มใส คอยดูแลเราอย่างดี
มีน้องชาวม้งแต่งตัวด้วยชุดสวยๆของม้งมายืนคอยต้อนรับและคอยให้บริการอยู่ตลอด น่ารักมาก
อาหารของเรามื้อนี้ประกอบไปด้วยเมนู ไข่ยัดไส้ ผัดกะเพราไก่ ผัดผักรวม และต้มยำไก่น้ำข้น ยังไม่พอเท่านี้ค่ะ มีขนมหวานเป็นวุ้นกะทิและมูสนมสด อร่อยมาก!!! เรากินมูสนมคนเดียว 2 แก้วเลย และต่อท้ายด้วยผลไม้ เป็นแตงโมกับสับปะรด รสชาติอร่อยใช้ได้เลยค่ะ
หลังจากที่ทานอาหารอิ่มแล้ว ได้รับการแจ้งมาว่าจะมีการแสดงพื้นบ้านของชาวม้งต่อ นักแสดงก็คือชาวม้งแท้ๆซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ระแวกนี้เลยล่ะค่ะ การแสดงจะมีทุกวันที่มีแขกเข้าพัก แม้มีแขกเข้าพักแค่คนเดียวก็จะยังคงทำการแสดงให้ชมด้วยนะคะ นับถือใจมากๆเลย
ห้องสำหรับจัดการแสดงจะอยู่ด้านหลังห้องอาหาร แต่ถ้าหากมีแขกเข้าพักจำนวนมากๆก็อาจจะย้ายไปแสดงที่ลานสนามหญ้าด้านนอกค่ะ การแสดงมีทั้งหมด 8 ชุด ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที มีทั้งร้องรำทำเพลงและการละเล่น ช่วงท้ายๆจะให้เราร่วมทำกิจกรรมด้วยสนุกมาก ไม่น่าเบื่อเลย เราชอบมากโดยเฉพาะช่วงที่ให้ลองโยนลูกข่างด้วยตัวเอง เป็นลูกข่างขนาดใหญ่ที่ใช้เชียกพันรอบๆแล้วต้องย่อตัวเพื่อเหวี่ยงลูกข้างออกไปจนเชือกหมุนออกหมดแล้วจึงจะชักมือดึงเชือกกลับได้ ลุ้นมากว่าลูกข่างจะหมุนไหม พอทำให้หมุนได้ตั้งแต่รอบแรกถึงกับเฮด้วยความดีอกดีใจยกใหญ่
ยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งเย็นลงเรื่อยๆ จึงขอเดินเล่น ตั้งกล้องถ่ารูปเล่นชิลๆก่อนกลับไปนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มจนหลับสบายมากๆเลยค่ะ
วันต่อมา
วันนี้ตื่นสายๆเพราะด้านนอกท้องฟ้าดูขมุกขมัว มีเมฆฝน อากาศอึมครึม ออกมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร เริ่มต้นด้วยการเสิร์ฟเครื่องดื่ม เป็นน้ำส้ม นม และน้ำร้อนพร้อมชากาแฟสำเร็จรูปให้เลือกชงตามต้องการ
ต่อด้วยแพนเค้กกับไซรัป แพนเค้กเนื้อนุ่มมาก… ส่วนไซรัปหวานกำลังดี ไม่เลี่ยนเลยละมุนมาก
จานต่อมาคือขนมปังปิ้งและครัวซองที่มาพร้อมกับเนยและแยมผลไม้ ครัวซองเนื้อนุ่มมาก ทานเปล่าๆยังอร่อยเลยค่ะ ขนมปังก็ปิ้งมากำลังดี ทานตอนที่ยังอุ่นทาเนยกับแยมอย่างละครึ่งอร่อยมาก (สูตรส่วนตัว ^^)
ต่อมาเป็นจานหลัก อเมริกัน เบรคฟาสท์ ดูพิถีพิถันดีค่ะ ทุกอย่างสุกกำลังดี และให้เยอะมากๆ!!
แล้วก็มีผลไม้เป็นจานสุดท้ายของมื้อ คือให้เยอะมาก อิ่มเต็มพุงมากๆเลยล่ะค่ะ ที่สำคัญคือรสชาติใช้ได้เลย
หลังจากที่แน่นพุงเรียบร้อยแล้ว ขอเวลามาเดินชมทัศนียภาพรอบๆเป็นการย่อยในตัว เราชอบโซนโต๊ะอาหารด้านนอกที่ดูมีกลิ่นอายคันทรี่ยุโรปหน่อยๆ คือเป็นโต๊ะและเก้าอี้ไม้มีโครงเป็นเหล็กเคลือบสีทองจางๆ วิวด้านหลังเป็นนาข้าว ต้นไม้ และภูเขา วิวเจิดจรัสชัชวาลโชติช่วง สวยงามแบบคลาสสิกมากๆ
ขยับมาจุดใกล้ๆกันกับเมื่อสักครู่ ถือว่าเป็นวิวไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดอยางยิ่ง ซึ่งก็คือ “สระว่ายน้ำ” น้ำใสๆในสระกระเบื้องสีฟ้าสด รอบสระเป็นพื้นไม้ มีเตียงอาบแดดและเก้าอี้ให้นั่งนอนกันเพลินๆ มีซุ้มบาร์อยู่ใกล้ๆ และที่สำคัญคือมองเห็นวิวแจ่มๆแบบนี้ มันฟินมาก!!!
มาเดินดูบ้านพักหลังอื่นๆและวิวรอบๆกันต่ออีกหน่อย เขียวชะอุ่มชุ่มชื่นดีจริงๆ เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจภายใต้อากาศเย็นๆ ต้นไม้ใบหญ้าอันแสนร่มรื่น และที่พักอันมีสไตล์ม้งออกจะโมเดิร์นนิดๆ คลาสสิกหน่อยๆ เราว่ามันดีมากจริงๆนะ
ม้ง ฮิลล์ไทรบ์ ลอดจ์
ตั้งอยู่ที่ ตำบล แม่แรม อำเภอ แม่ริม เชียงใหม่ 50180
ติดต่อสอบ
โทรฯ: 02 642 5497
เว็บไซต์: https://www.hmonghilltribelodge.com
ประเภทห้องพัก
ห้องสแตนดาร์ดม้ง
ห้องพักประเภทนี้มีห้องน้ำส่วนตัว ระเบียงส่วนตัว พร้อมวิวภูเขาและโต๊ะทำงาน
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง: พัดลม, ระเบียง, วิวภูเขา, โต๊ะเขียนหนังสือ, บริเวณนั่งเล่น, เครื่องทำความร้อน, ตู้เสื้อผ้า, ฝักบัว, ฟรีเครื่องใช้ในห้องน้ำ, สุขา, ห้องน้ำ
ขนาดห้อง: 24 m²
ขนาดเตียง: เตียงขนาดควีนไซส์ 1 เตียง หรือ 2 เตียงเดี่ยว
ห้องซูพีเรียม้ง
ห้องเตียงคู่ มีระเบียงพร้อมวิวภูเขา และบริเวณที่นั่งเล่น
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง: ระเบียง, วิวภูเขา, โต๊ะเขียนหนังสือ, บริเวณนั่งเล่น, พัดลม, เครื่องทำความร้อน, ตู้เสื้อผ้า,
ขนาดห้อง:32 ตร.ม.
Bed Type(s): 2 เตียงคู่
ห้องดีลักซ์ม้ง
ห้องคู่ มีระเบียงพร้อมวิวภูเขาและบริเวณที่นั่งเล่น
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง: ระเบียง, วิวภูเขา, โต๊ะเขียนหนังสือ, บริเวณนั่งเล่น, พัดลม, เครื่องทำความร้อน, ตู้เสื้อผ้า, ฝักบัว, ฟรีเครื่องใช้ในห้องน้ำ, สุขา, ห้องน้ำ, ตู้เย็น
ขนาดห้อง: 48 ตารางเมตร
ขนาดเตียง: เตียงขนาดควีนไซส์ 1 เตียง
ก่อนเช็คเอ๊าท์ จากระเบียงห้องพักซูมกล้องไปยังวิวภูเขา เราได้เห็นภาพนี้ค่ะ มีอาคารและเครื่องหมายบวกอยู่บนนั้น ซึ่งได้ทราบหลังจากนั้นว่าเป็นคริสตจักรค่ะ อยู่ในหมู่บ้านหนองหอยใหม่ จึงมีชื่อว่า “คริสตจักรหนองหอยใหม่”
เราลองชวนกันขับรถขึ้นไปทางที่จะไปม่อนแจ่ม กระทั่งถึงทางลงไปคริสจักร
จึงแวะเข้าไปดูค่ะ เมื่อเดินตามทางลงมาจะผ่านชุมชนชาวไทยภูเขาลงไป เป็นทางลาดชันพอสมควรค่ะ ได้พบคุณยายท่านหนึ่งกำลังนั่งเย็บผ้า เราเองก็หลงไหลในงานเย็บปักถักร้อยอยู่พอตัว สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งรองเท้า กระเป๋า ยางมัดผม พู่ห้อยกระเป๋า ต่างหู ข้อมือ เรามือแนวนี้เยอะมาก แม้ว่าปัจจุบันจะไม่ค่อยแต่งตัวแล้วก็ยังชื่นชอบอยู่ จึงลองๆเดินเข้าไปถามว่ามีเย็บไว้สำหรับขายด้วยไหม คุณยายบอกว่าไม่ขาย อันนี้เย็บไว้ใส่เองตอนปีใหม่ สีสันลวดลายดูงดงามมากๆเลยนะคะ และคุณยายก็ให้ถ่ายรูปกลับมาเป็นที่ระลึกด้วย ตอนสนทนากันคุณยายยิ้มแย้มหัวเราะสดใสร่าเริงมาก แต่พอให้เราถ่ายรูปคุณยายกลับเก๊กหน้านิ่งซะอย่างนั้น ^^”
เดินตามถนนลงไปอีกไม่นานก็จะมองเห็นสัญลักษณ์ของคริสตจักร และเมื่อเดินเข้ามากระทั่งถึงประตูรั้วทางเข้า จะพบประตูรั้วปิดอยู่ สามารถเปิดเข้าไปได้เลยค่ะ เนื่องจากด้านในจะมีผู้ดูแลอยู่กับเด็กๆตัวเล็กๆอีกสองคน ดังนั้นจึงต้องปิดประตูเพื่อไม่ให้เด็กๆวิ่งซนออกมาด้านนอก เดินเข้ามาทักทายน้องๆกันได้นะคะ น้องๆน่ารัก
สำหรับชาวคริสต์สามารถเข้ามาทำพิธีมิสซาทุกๆวันอาทิตย์ได้ตามปกติเลยค่ะ ส่วนนักท่องเที่ยวก็สามารถเข้ามาชมวิวทิวทัศย์กันที่นี่ได้ด้วยนะคะ มาชมกันเลยค่ะ ว่าจากจุดนี้จะได้เห็นวิวสวยๆอย่างไรบ้าง
นับว่าเป็นอีกจุดที่ควรมาแวะชมวิวสวยๆกันค่ะ วิวดีมากจริงๆ และคิดว่าไม่ค่อยมีคนรู้แน่นอน ใครผ่านไปผ่านมาทางม่อนแจ่ม ลองมาชมวิวที่นี่กันดูนะคะ และนอกจากวิวสวยๆอากาศเย็นๆแล้ว ที่นี่มีไก่ดำของชาวบ้านเดินไปมาอยู่เยอะมากด้วยนะ น่ารักดี
หลังจากได้ชมวิวและสูดอากาศดีๆเย็นสบายชื่นใจกันอย่างเต็มที่แล้วก็ได้เวลาเดินทางเข้าม่อนแจ่มกันแล้วๆๆ นี่คือภาพระหว่างทางจากคริสตจักรไปม่อนแจ่มค่ะ
“ม่อนแจ่ม” ตั้งอยู่ที่ หมู่ 7 ตำบล แม่แรม แม่ริม เชียงใหม่ อยู่บนสันเขาบริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย สูงจากระดับน้ำทะเล 1,350 เมตร เดิมชาวบ้านจะเรียกบริเวณนี้ว่า “กิ่วเสือ” เป็นสภาพป่ารกร้าง ต่อมาชาวบ้านได้เข้ามาทำการปลูกฝิ่น จนกระทั่งโครงการหลวงเข้ามาซื้อพื้นที่เข้าโครงการหลวงหนองหอย (ม่อนแจ่ม) เมื่อเป็นพื้นที่ในส่วนหนึ่งของโครงการหลวงแล้ว คุณแจ่ม แจ่มจรัส สุชีวะ หลานตาของ หม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี ประทานมูลนิธิโครงการหลวงได้เข้ามาพัฒนาและปรับปรุงบริเวณม่อนแจ่ม ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ยอดเขาทางทิศตะวันออกจะมีจุดชมวิว “ม่อนล่อง” สามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของพื้นที่โครงการหลวง เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สามารถมองออกไปได้อย่างกว้างไกล มีพันธุ์ไม้และดอกไม้ป่า เส้นทางที่ขึ้นไปจะเป็นดินลูกรัง จึงต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อขึ้นไป
ทางทิศใต้จะมองเห็นเป็นหมู่บ้านม้งหนองหอยและพื้นที่โครงการหลวงหนองหอย(ม่อนแจ่ม)โดยรอบ จะเป็นแปลงปลูกผักและวิจัยพืชผักเมืองหนาว เช่น โรสแมรี่ มิ้น อาติโช๊ค และผลไม้อย่างเช่น องุ่น สตรอว์เบอร์รี พันธุ์พระราชทาน 80 รวมถึงผักต่างๆ เช่น มะเขือเทศดอยคำ
ม่อนแจ่มนั้นยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ใกล้เมือง เดินทางง่าย อากาศเย็นสบาย มีดอกไม้สับเปลี่ยนหมุนเวียนให้ชมตลอดปี วิวก็แจ่มสมชื่อจริงๆค่ะ
แถมยังมีร้านค้าที่จำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของชาวม้งให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไปกันด้วย มีหลายร้านเป็นทางยาวริมถนนขึ้นลงเลยล่ะค่ะ
การเดินทางมายังม่อนแจ่ม
รถส่วนตัว
ใช้เส้นทางที่ขึ้นไปทางแม่ริม (ถนนหมายเลข 107) แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางสายแม่ริม-สะเมิง (เส้น 1096) และเลี้ยวขวาตามป้ายชี้ทางไปม่อนแจ่ม โครงการหลวงหนองหอย (หมายเลข 4051) ระยะทางรวมประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
รถโดยสารสาธารณะ
การเดินทางมายังม่อนแจ่มจะไม่มีรถสาธารณะประจำทาง แต่สามารถเหมารถแดงหรือรถเหลืองจากตัวเมืองเชียงใหม่ได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ราคาแล้วแต่ตกลง หรือใช้บริการรถแท็กซี่จากสนามบินเชียงใหม่ก็ได้เช่นกัน
อย่าลืมติดตามการเดินทางครั้งต่อๆไปของ GowithAmp กันด้วยนะค้า…
Website: www.gowithampth.com
Facebook: https://web.facebook.com/gowithamp