Hotel,  travel story

Mida De Sea Hua Hin กิน&นอนฟินๆ เที่ยวหัวหิน-ชะอำ

Mida De Sea Hua Hin

กิน&นอนฟินๆ เที่ยวหัวหิน-ชะอำ

มีเวลาว่างแค่ 2 วัน แต่อยากไปชะอำกับหัวหิน พักผ่อนด้วย เที่ยวด้วย ยังไงดี หาข้อมูลอยู่ไม่นานก็สรุปได้ว่า เน้นสบายๆ ถ่ายรูป ชมวิว แล้วมาลงตัวกับที่พักสวยๆ “Mida De Sea Hua Hin” ตั้งอยู่ที่ ซอยชะอำ 53 (ถนนบ่อเคี๊ยะ) ถนนเพชรเกษม ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และออกไปเที่ยวยังสถานที่ตามด้านล่างนี้ค่ะ

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (6 กิโลเมตร)

Debo Café (10 กิโลเมตร)

เพลินวาน (10 กิโลเมตร)

เวเนเซีย (3 กิโลเมตร)

 

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก “ชะอำ” และ “หัวหิน” กันก่อนนะคะ ชะอำไม่ใช่ชะอม มีมากกว่าลมและทะเล ชะอำเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวังเพชรบุรี นอกจากชายหาดชะอำที่มักจะนึกถึงกันเป็นที่แรกๆแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายหลายรูปแบบ เช่น พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน, สวนน้ำซานโตรินี, หาดปึกเตียน, เดอะ เวเนเซีย หัวหิน ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวบางที่ก็ใช้คำว่า หัวหิน ต่อท้าย เพื่อให้เป็นที่รู้กันว่า เมื่อมาเที่ยวหัวหินคุณจะสามารถเที่ยวที่นี่ได้ด้วย ส่วนหัวหินจริงๆแล้วก็เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายไม่แพ้กัน เช่น เพลินวาน, อุทยานราชภักดิ์, The Cicada Market, วัดห้วยมงคล, สวนสนประดิพัทธ์, สวนน้ำวานานาวาหัวหิน และอีกเยอะแยะมากมาย

 

เดินทางมาถึง Mida De Sae Hua Hin ช่วงสายๆ เข้าซอยชะอำ 53 มาก็สามารถมองเห็นโรงแรมอยู่ไม่ไกลแล้วค่ะ

 

จากปากซอยไปอีกประมาณ 300  เมตรเท่านั้นก็จะพบทางเข้าอยู่ทางขวามือแล้ว

 

มาถึงบริเวณล็อบบี้ที่ดูกว้างขวาง อากาศถ่ายเทได้ดี จึงเย็นสบายโดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศใดๆ ที่นี่ตกแต่งสไตล์คอนโดค่ะ เดี๋ยวต้องลองเข้าไปชมบรรยากาศในห้องพักกันอีกที ซึ่งความจริงแล้ว ไมด้า เดอ ซี แห่งนี้ได้ทำการรีโนเวทมาจากคอนโด จึงยังคงกลิ่นอายของความเป็นคอนโดเอาไว้ เพียงแค่ปรับปรุงพื้นที่ทั้งภายนอกและภายในให้เป็นรีสอร์ท ทำให้ได้อารมณ์เก๋ๆแบบนี้นั่นเอง

 

มี Welcome Drink หวานเย็นชื่นใจ

 

ทำการเช็คอิน แล้วก็ขึ้นไปห้องพักกันค่ะ ห้องพักของเราวันนี้เป็นประเภท “ดูเพล็กซ์ พูล แอคเซส” ฟังแค่ชื่อก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว เปิดประตูเข้ามาดูกันค่ะ …. อะแน่ะ รอเสียงเปิดประตูอยู่ล่ะสิ บอกเลยว่า ไม่มีจ้ะ ก็เพราะประตู้ที่นี่เปิดแล้วไม่มีเสียงน่ะสิคะ เงียบดี แต่เวลาปิด ค่อยๆปิดนะคะเพราะเป็นระบบล็อกอัตโนมัติ เป็นเหมือนกันทุกที่คือถ้าติดระบบนี้แล้วปิดไม่ระวัง จะเหมือนเราปิดแบบกระแทกดัง โป้ง! เอ้ย!! ปั้ง! ^^

 

เมื่อเข้ามาแล้ว ทางด้านซ้ายมือจะพบกับห้องน้ำก่อนเลย ห้องน้ำที่นี่ดูดีแบบอบอุ่นๆ มีประตูที่สามารถเปิดเข้าออกได้สองทาง อีกทางหนึ่งเป็นทางที่ออกไปห้องแต่งตัว อ่า.. นั่นหมายความว่า เมื่อเข้าไปแล้วควรล็อกทั้งสองทางนะจ๊ะ ไม่งั้นอาจจะได้ไปจ๊ะเอ๋กันในห้องน้ำ

 

ส่วนบริเวณขวามือ จะเป็นโซนครัวขนาดกระทัดรัดแต่ครบครัน ซิงค์ล้างจาน ตู้เย็น น้ำดื่ม และอุปกรณ์ชงชา กาแฟ

 

มาถึงส่วนที่เราจะเรียกว่าห้องโถง หรืออาจะเรียกว่าเป็นห้องนั่งเล่นนั่นแหละ

 

ตรงนี้มีโต๊ะอาหารที่ดูเท่ด้วยสีขาวดำและเป็นรูปแบบเรียบๆเข้ากับบรรยากาศอันทันสมัยของห้องพักมาก

 

ชุดโซฟา โต๊ะวางของ และสมาร์ททีวี พอได้นั่งเล่นอยู่ตรงนี้ก็ไม่อยากลุกไปไหนแล้ว เอ๊ะ หรือเป็นเพราะเราขี้เกียจ ฮ่าๆๆๆ ไม่สิ! มันเป็นมุมสบายจริงๆนะ สามารถนั่งพัก เอนหลัง จนหลับไปได้เลยล่ะค่ะ

 

และเมื่อเปิดผ้าม่านด้านหลังออก ว้าว……. สระว่ายน้ำ!!!! ช่ายแว้ว ตามชื่อของประเภทห้องพักเลยค่ะ ถ้ามีต่อท้ายด้วยคำว่า “พูล แอคเซส” นั่นก็หมายความว่าจะติดกับสระว่ายน้ำ เปิดประตูออกไปก็ลงเล่นน้ำได้เลย ไม่ต้องเดินไปเข้าประตูส่วนกลาง ว้าวๆๆๆ แจ่มมากเลย!

 

เธอเห็นบันไดนั่นไหม (บันดาลลงบันได บันทึกให้จำจงดี รื่นเริงบันเทิงมี เสียงบันลือสนั่นดัง – อ่า.. สะกดถูกแล้วเนอะ บันได ไม่ใช่ บรรได บันใด หรือ กะได ^^) ต่อๆๆ เธอเห็นบันไดนั่นไหม ใช่แล้ว ห้องนี้เขามี 2 ชั้นอยู่ในห้องเดียวกันจ้า สไตล์คอนโดโดยแท้ ว้าว….. ว้าวแล้วก็ว้าวอีก ชอบอะ เพราะเคยคิดว่าอยากมีคอนโดแบบนี้ นี่ไม่ใช่คอนโดตัวเองแต่จะได้มาอยู่ 2 วัน 1 คืน ก็ฟินมากแล้วล่ะ

 

ลองเดินขึ้นบันไดมาด้านบนกันค่ะ อุ๊ย บันไดมีร่อง ต้องเดินดีๆถ้าลื่นแล้วขาตกลงไปสักข้างหนึ่งนี่เจ็บน่าดู หรือถ้าใส่กระโปรงมาเดินขึ้นลงก็ระมัดระวังหน่อยเนอะ เดินขึ้นมาพบกับประตูทางเข้าสู่ชั้นสอง ตรงนี้มีประตูปิด-เปิดได้นะคะ

 

เมื่อเดินขึ้นมาแล้ว ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นห้องนั่งเล่น รับลมชมวิว เพลินๆค่ะ มีโซฟาตั้งไว้ให้อยู่

 

และถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะพบกับเตียงนอนขนาดใหญ่  เป็นขนาดคิงไซส์ (6 ฟุต) สีขาวปลอด คาดผ้าตกแต่งสีฟ้าสดใส วางทับด้วยผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดผมม้วนไว้ มีทีวีอีกเครื่องหนึ่งด้วยนะคะ

 

เดินไปทางข้างๆเตียงแล้วมองลงไปยังด้านล่าง นั่นคือเพื่อนสาวของเราเอง ^^ Hi!! เธอ หันหน้ามาหน่อยสิ ข้างล่างสวยมากเลย เธอๆๆๆ….. ก็ว่าเรียกตั้งนานทำไมไม่หันมา ปั๊ดโธ่ ตรงนี้เป็นกำแพงกระจกใสกั้นอยู่ เรียกไปเถอะ ยังไงก็ไม่ได้ยิน ฮ่าๆๆๆ แต่เป็นมุมที่มองเห็นด้านล่างสวยมากๆ เห็นสระว่ายน้ำด้านนอกได้อย่างชัดเจน โอย…อยากนอนอยู่ที่นี่หลายๆคืนจัง

 

ถัดจากห้องนอนเข้ามาอีก จะพบกับโต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำที่มีทั้งห้องอาบน้ำฝักบัว และอ่างอาบน้ำ!! ลงนอนแช่น้ำให้สบายตัวกันได้เต็มที่

 

ลงมาด้านล่างเพื่อออกไปดูสระว่ายน้ำด้านนอกกันต่อค่ะ เปิดประตูกระจกด้านหลังออกมา จะมีชุดโซฟาอีกเซ็ตหนึ่งตั้งอยู่ และมีบันไดลงสระเล็กๆไว้ สำหรับห้องใครห้องมันในชั้นนี้

 

ลักษณะสระว่ายน้ำของที่นี่จะเป็นผืนยาวเลียบชานอาคารเชื่อมกันทั้งหมด 3 อาคารไปตลอด แต่จะคดเคี้ยวหักมุมเข้าตามแต่ละอาคารนะคะ ไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าตรงๆ จุดเด่นอยู่ที่น้ำใสๆระบบคลอรีน ตกแต่งด้วยก้อนหินน้อยใหญ่ และมีโดมไม้สไตล์ทรอปปิคอลกับที่นั่งรับลมรับแดดเก๋ๆแบบนี้อยู่หลายจุดเลยค่ะ ดูเก๋ดีมากเลย ถือว่าเป็นไฮไลท์เด่นๆอีกอย่างของที่นี่เลยก็ว่าได้

 


 

ประเภทห้องพัก

ยังมีเวลาว่างเหลือเฟือก่อนออกไปเที่ยวข้างนอก จึงขอเก็บภาพห้องพักประเภทอื่นๆมาให้ชมกันค่ะ ห้องพักของ Mida De Sea ทุกห้องจะมีขนาดค่อนข้างกว้างมาก มีอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องครบครัน มีอ่างอาบน้ำทุกห้อง และมีส่วนครัว (แต่ไม่อนุญาตให้ประกอบอาหารภายในห้อง) ที่มีทั้งซิงค์ล้างจาน ตู้เย็น น้ำดื่ม และอุปกรณ์การชง ชา กาแฟ หลักๆแล้วจะมีอยู่ 3 ประเภทใหญ่ๆ ในแต่ละประเภทก็จะมีประเภทย่อยออกไปอีก ดังนี้

1. Deluxe

เป็นห้องมาตรฐานที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างถึง 45 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 แบบ คือ

1.1 ดีลักซ์ : เป็นห้องมาตรฐานปกติ ที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ลักษณะเหมือนห้องพักปกติทั่วไป มีระเบียงที่สามารถชมวิวทะเลได้

1.2 ดีลักซ์ พูล แอคเซส : มาตรฐานเดียวกับห้องดีลักซ์ แต่เพิ่มความพิเศษตรงที่ติดกับสระว่ายน้ำ สามารถเปิดประตูออกไปลงสระว่ายน้ำได้ เสมอนเป็นโซนสระว่ายน้ำส่วนตัว

1.3 ดีลักซ์ 2 ห้องนอน : กั้นห้องเพิ่มห้องนอนเป็น 2 ห้อง และมีระเบียงที่สามารถออกไปชมวิวทะเลได้ด้วย เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนสบายๆของครอบครัวและกลุ่มเพื่อน

 

2. Duplex

ในห้องมีพื้นที่กว้าง ขนาด 72 ตารางเมตร ลักษณะเป็นเหมือนสไตล์คอนโดสองชั้น ที่เชื่อมถึงกันด้วยบันไดอยู่ภายในห้อง เหมาะกับการมาเป็นครอบครัวและกลุ่มเพื่อนอย่างยิ่ง สามารถเลือกแบบที่มีห้องนอน 1 ห้อง 2 ห้อง หรือ 3 ห้องแบบสบายๆ หรือจะมากับแฟนสองต่อสองก็เลือกพักแบบดูเพล็กซ์ที่มี 1 ห้องนอนธรรมดาก็ได้อารมณ์เหมือนอยู่คอนโดส่วนตัว

2.1 ดูเพล็กซ์ : ห้องพักอารมณ์คอนโดสองชั้น สะดวกสบายด้วยโซนต่างๆในห้อง ไม่ว่าจะเป็นโซนครัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอน มองเห็นวิวทะเลจากระเบียงส่วนตัว

2.2 ดูเพล็กซ์ 2 ห้องนอน : เพิ่มห้องนอนจากดูเพล็กซ์ขึ้นมาอีก 1 ห้อง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีให้พร้อมเพื่อทุกการใช้งาน

2.3 ดูเพล็กซ์ พูล แอคเซส : เป็นห้องที่อยู่ติดสระว่ายน้ำ สามารถเปิดประตูออกไปแล้วลงเล่นน้ำในสระได้เลย

2.4 ดูเพล็กซ์ 2 ห้องนอน พูลแอ็คเซส : เป็นห้องที่ติดสระว่ายน้ำ มีสองชั้นอยู่ภายในห้องเดียวกัน และมีส่วนของห้องนอน 2 ห้อง

2.5 ดูเพล็กซ์แฟมิลี่ 3 ห้องนอน : ห้องพักสไตล์คอนโดสองชั้นที่เตรียมพร้อมไว้ให้สำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนกลุ่มใหญ่ ด้วยห้องนอนมากถึง 3 ห้องอยู่ภายใน

 

3. Suite

ห้องสวีท มีขนาดห้องกว้างที่สุดถึง 102 ตารางเมตร เปลี่ยนมุมมองในการชมวิวจากห้องหัวมุม เงียบสงบและสบายตลอดการเข้าพัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

3.1 ห้องสวีทหัวมุมแบบ 2 ห้องนอน : ห้องพักขนาดใหญ่พร้อมให้เข้าพักกันแบบสบายที่สดด้วยเนื้อที่กว้างขวางภายในห้อง

3.2 ห้องสวีทหัวมุมแบบ 2 ห้องนอน ติดสระว่ายน้ำ : เพิ่มความสะดวกสบายแสนพิเศษขึ้นมาตรงที่ติดสระว่ายน้ำ ให้ได้พักผ่อนอย่างมีความสุข และสนุกสนานกันได้อย่างเต็มที่

3.3 รอยัล สวีท 3 ห้องนอน : ห้องที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนที่ต้องการความสะดวกสบายกับพื้นที่ภายในที่กว้างมาก และมีห้องนอนสุดแสนพิเศษไว้รองรับถึง 3 ห้อง

 


 

Debo café

หลังจากที่เดินดูตัวอย่างห้องพักประเภทต่างๆกันจนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงวัน เราจะไปร้านที่เราเคยมาทานเมื่อ 2-3 ปีก่อน นั่นก็คือ Debo café เป็นร้านคาเฟ่ที่มีจำหน่ายทั้ง ข้าว เครื่องดื่ม ไอศกรีม และก๋วยเตี๋ยว เป็นร้านน่ารักๆอยู่ติดกับวังไกลกังวนนั่นเองค่ะ

 

จะเลือกนั่งด้านนอกท่ามกลางต้นไม้เขียวๆเหมือนพื้นที่สวนหน้าบ้าน หรือจะเข้าไปนั่งด้านในร้านก็ได้ค่ะ

 

ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็ต้องเป็นเมนูก๋วยเตี๋ยวที่ให้เราเลือกเสริมออฟชั่นเพิ่มเอาเอง เร่มด้วยให้เลือกเส้นก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าจบที่สเต็ปนี้ ราคาจะอยู่ที่ 35 บาท มีเครื่องครบแล้วนะคะ ไม่ว่าจะเป็น  หมู ลูกชิ้น และตับ เผ็ดน้อยเผ็ดมาก็สั่งได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครยังอยากได้เสริมแบบที่ไม่ธรรมดาก็เลือกสเต็ปถัดมา คือ เพิ่มท็อปปิ้งหรือจะเรียกว่าเพิ่มออปชั่นเข้าไปได้เลยค่ะ มีให้เลือกตั้งแต่ ไข่ต้ม เบค่อน หมูแพนเค้ก ปลาหมึก กุ้งแม่น้ำ กุ้งทะเล เกี๊ยวทอด ฯลฯ ราคาแต่ละอย่างก็แตกต่างกันออกไปค่ะ

 

เราก็จัดมาเต็มที่เลยด้วยความคิดถึง ได้ 2 ชามนี้จ้า เครื่องเน้นๆ

 

ที่ตั้ง : 11/116 ซ.หัวหิน37, (ซอยโกเด้นเพลสข้างวังไกลกังวล), ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

เบอร์ติดต่อ : 081 427 0147

เวลาเปิดให้บริการ :  10:00 – 18:00 น.

 


 

เพลินวาน

เติมพลังให้ร่างกายแล้วก็พร้อมออกเที่ยวต่อ เริ่มกันที่ “เพลินวาน”

สถานที่ท่องเที่ยวสุดคลาสสิคในหัวหินที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบย้อนยุคแห่งแรกๆเลยก็ว่าได้ ภายในตกแต่งให้เป็นเหมือนตลาดที่มีกลิ่นอายของยุคพ่อแม่ไปถึงปู่ย่าตายาย มีขนม ของทานเล่น ทานจริงจังไว้ให้เลือกซื้อเลือกชิมมากมาย เข้ามาแล้วหามุมถ่ายรูปเก๋ๆได้แทบทุกมุมเลยล่ะค่ะ

 

 

 

 

ที่ตั้ง : 4/90-95 ถนน เพชรเกษม ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

เบอร์ติดต่อ : 032 520 311

เวลาเปิดให้บริการ :  09.00 – 22.00 น.

 


 

The Venezia Hua Hin

จากนั้นมาต่อกันที่ “เดอะ เวเนเซีย หัวหิน” (The Venezia Hua Hin) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีกลิ่นอายเวนิส หรือเวเนเซียในอิตาลี

 

จำลองลักษณะอาคาร ศิลปะ การตกแต่งให้ได้บรรยากาศเหมือนหลุดไปอยู่ในยุโรปจริงๆ

 

จะเข้ามาเดินเล่นเที่ยวชมศิลปะในมุมต่างๆ หรือจะซื้อของเล่นของใช้ของกิน ในนี้ก็มีจำหน่ายเพรียบพร้อมแทบทุกอย่าง

 

หรือจะเข้ามาเล่นเครื่องเล่น ก็มีให้เลือกเล่นเยอะมากเช่นกัน ถ้าใครมาแนวเล่นเครื่องเล่น แนะนำให้ซื้อเป็นแพคเกจที่บริเวณหน้าทางเข้านะคะ จะได้ราคาที่คุ้มกว่ามาก ถ้าหากเข้าไปเลือกซื้อตั๋วด้านในจะได้ราคาแพงกว่าแน่นอน

 

ที่ตั้ง : 1899 ถนน เพชรเกษม ตำบล ชะอำ อำเภอ ชะอำ เพชรบุรี

เบอร์ติดต่อ : 032 442 823

เวลาเปิดให้บริการ :  10.00 – 20.00 น.

 


 

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

และมายังอีกที่ ที่เราคิดถึงมากๆเช่นกัน นั่นก็คือ “พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” สถานที่แห่งนี้มีทั้งเสน่ห์ที่น่าค้นหาจากประวัติศาสตร์ มีความอบอุ่นแสนหวานจากสีสันและศิลปของอาคาร

 

เมื่อซื้อบัตรเข้ามาแล้ว ถ้าหากว่าแต่งกายไม่สุภาพ นุ่งสั้นเหนือเข่าทั้งหญิงและชาย จะมีผ้านุ่งให้ยืมใส่ ฟรี รับและแต่งกายให้สุภาพได้ที่บริเวณเต็นท์สีขาวด้านในค่ะ

 

ในเต็นท์นี้จะมีวิธีการใส่ผ้านุ่งไว้ให้ดูด้วยนะคะ ใส่ง่ายๆด้วยตัวเองได้เลย

 

เสร็จแล้วก็เดินตามทางเข้าไปเรื่อยๆค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่บอกว่าให้เดินไปทางไหน และมีป้ายเขียนบอกเอาไว้อยู่ด้วย

 

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานในฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวจัดเป็นที่ประทับที่มีความเรียบง่ายที่สุดซึ่งสร้างตามพระราชประสงค์ของพระองค์เองเพื่อไม่ให้เป็นการเปลืองพระราชทรัพย์จนเกินไปโดยพระองค์เสด็จมาประทับ ณ พระราชนิเวศน์แห่งนี้ถึงสองครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2467 เป็นเวลา 3 เดือน และครั้งที่สอง ปี พ.ศ. 2468 หลังจากนั้นก็ไม่ได้เสด็จมาประทับอีกเลยเนื่องจาก 5 เดือนต่อมาพระองค์ก็เสด็จสวรรคต ณ พระบรมมหาราชวัง

 

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ยังคงซึ่งไว้เขตพระราชฐาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เป็นค่ายพระรามหก กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด) เพื่อใช้ในการฝึกรบสนับสนุนทางอากาศ และในปี 2536 ตชด ได้จัดตั้ง มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และได้ทำการบูรณะซ่อมแซม ปลูกต้นไม้เพิ่มเติมจนร่มรื่นขึ้นมาก

 

ตามพื้นทางเดินจะมีหลุมขุดตรวจสอบทางโบราณคดีอยู่ ให้เห็นถึงสภาพทางเดิมในสมัยก่อน ก่อนที่จะมีการบูรณะใหม่มาจนถึงทุกวันนี้

 

สถาปัตยกรรมของพระราชนิเวศน์เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์คือ(ไทยผสมยุโรป) สร้างด้วยไม้สักทองลักษณะเป็นอาคาร2ชั้นเปิดโล่งใต้ถุนสูงบริเวณใต้ถุนทำเป็นคอนกรีต หลังคาเป็นหลังคาทรงปั้นหยามุงด้วยกระเบื้องว่าวแบบสี่เหลี่ยมซึ่งสามารถกันแดดและกันฝน ได้ดีกว่าแบบธรรมดาเพดานยกพื้นสูงมีบานเกร็ดระบายความร้อน โดยมีเสารองรับพระที่นั่งทั้งหมด1080ต้นวางในแนวเดียวกันเสาทุกต้นมีการหล่อขอบฐาน และยกขอบขึ้นไปรางน้ำเรียกว่าบัวขอบเพื่อกันมดและสัตว์อื่นๆซึ่งในสมัยนั้นมีมดและสัตว์อื่นๆชุกชุม (ข้อมูลจาก https://th.wikipedia.org/wiki/พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน)

 

ปัจจุบันนี้เปิดให้เข้าเที่ยวชมได้เฉพาะบริเวณด้านล่างเท่านั้น เนื่องจากอายุของอาคารบวกกับการถูกกัดกร่อนจากแมลงจึงทำให้ตัวอาคารบางส่วนมีการทรุด มีรอยร้าวอย่างเห็นได้ชัด จึงมีการใช้ไม้ค้ำยันเอาไว้อยู่หลายจุด แต่ไม่ได้ทำให้ความงดงามนั้นจางหายไปแต่อย่างใด

 

บนเรือนบริเวณห้อง พระที่นั่งสมุทรพิมาน จะมีการบรรเลงดนตรีไทยให้นักท่องเที่ยวได้ฟังกันในช่วงกลางวันด้วยนะคะ เดินชมความงดงามไปฟังเสียงดนตรีไทยไป เข้ากับบรรยากาศเป็นอย่างยิ่งเลยล่ะค่ะ

 

ที่ตั้ง : 1281 (ค่ายพระรามหก) ถนนเพชรเกษม ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

เบอร์ติดต่อ : 032 508 443

เวลาเปิดให้บริการ :  08.30 – 16.30 น. (จำหน่ายบัตรถึง 16.00 น.)

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 30 บาท / เด็ก (10 – 14 ปี) 15 บาท

 


 

ห้องอาหาร Delizioso

เที่ยวกันจนเข้าช่วงเย็น ก็กลับเข้ามาที่ ไมด้า เดอ ซี กันค่ะ กลับมาด้วยความหิวโหยอย่างบอกไม่ถูก สงสัยจะใช้พลังงานในการเดินเล่นมากไป ต้องจัดหนักมื้อค่ำกันสักหน่อยแล้ว และสำหรับมื้อค่ำของเราในวันนี้ที่ห้องอาหาร “Delizioso” เป็น Bar&Restaurant เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 17.30 – 22.00 น. อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนกับล็อบบี้นะคะเป็นอีกหนึ่งห้องอาหารของที่นี่ซึ่งตกแต่งเอาไว้อย่างงดงาม ให้บริการทั้งเครื่องดื่มต่างๆ และอาหารอีกหลากหลายเมนู

 

และอาหารที่เราได้ทานในค่ำนี้ ข้าวจานเดียวก็ไม่พอ อิ่มแบบเต็มที่ไปเลยค่ะ

 

เริ่มต้นเบาๆด้วย “ค็อกเทลกุ้ง ซอสสลัด” กุ้งสดเนื้อเด้งๆ มาพร้อมกับผักสดกรอบและน้ำสลัดที่เข้มข้นลงตัวมาก

 

“ต้มยำกุ้งน้ำข้น” ชื่ออาจฟังดูธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลยนะจะบอกให้ น้ำซุปถึงรสถึงชาติแซ่บจี๊ดจ๊าดได้ในมาก หอมสมุนไพร ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกสด และมะนาวแบบสดๆ กุ้งตัวค่อนข้างใหญ่เนื้อเด้งเต็มปากเต็มคำมาก ใส่เห็ดฟางเพิ่มความอร่อยด้วย

 

ต่อมาคือ “พอร์คชอป” พอร์คชอปก็คือเนื้อหมูส่วนที่คล้ายกับทีโบนของเนื้อวัว นั่นก็คือเนื้อสันติดกระดูกนั่นเองค่ะ เป็นสเต็กพอร์คชอปที่เสิร์มาพร้อมกับผักสลัดสดๆ มันบด และซอสที่รสชาติเหมือนน้ำจิ้มแจ่วเข้มข้น โอย….อร่อยมากค่ะ แป๊บเดียวหายวับไปกับตาเหลือแต่กระดูกไว้ให้ดูต่างหน้าเลยทีเดียว

 

จานสุดท้ายคือ “ฉู่ฉี่แซลม่อน” กรี๊ด….กับเมนูนี้ตั้งแต่ได้เห็นชื่อ เพราะเราคือแซลม่อนเลิฟเวอร์ หรือเรียกง่ายๆว่า ชอบกินแซลม่อนสุดๆนั่นแหละจ้ะ พอเมนูนีมาวางที่โต๊ะ แว๊บแรกที่ได้เห็นก็น้ำลายไหลแล้ว เราเชื่อว่าคนชอบทานแซลม่อนจะเข้าใจอารมณ์ และเมื่อได้ลองตักทาน เนรื้อสัมผัสคือ เป็นฉู่ฉี่ที่รสชาติละมุนมาก ไม่เผ็ดเกินไป ไม่คาว ไม่เลี่ยน เป็นรสชาติกลางๆที่ทานได้ทุกวัย เนื้อแซลม่อนแน่นเต็มคำ อร่อยมาก นี่คือเมนูที่อร่อยที่สุดสำหรับเราเลยล่ะ

 

และปิดท้ายด้วยของหวาน เป็นไอศกรีมและกล้วยชุปแป้งทอด กรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยน้ำผึ้ง หวานมัน อร่อยมาก!!

 


 

ห้องประชุม สัมมนา

ออกมาจากห้องอาหารมองไปเห็นอาคารที่อยู่ติดกันเลยคือ “เดอ ซี บอลรูม” รองรับการจัดงานประชุมสัมมนาและจัดเลี้ยงได้มากกว่า 350 ท่าน ยามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟให้แสงสีที่งดงามไม่น้อย บริเวณด้านข้างภายนอกยังมีชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งรับประทานอาหารแบบรับอากาศภายนอกกันแบบนี้ด้วย ดูโรแมนติกไปอีกแบบเหมือนกันนะคะเนี่ย

 

สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำจะอยู่อยู่บริเวณชั้น 2 (อยู่ระหว่างอาคาร 1 และ 2 กับอาคาร 3 และ 4) สามารถเข้าใช้บริการได้ในเวลา 07:00 น. – 19:00 น. ของทุกวัน

 

ฟิตเนส เซ็นเตอร์

ที่นี่ยังมีห้องฟิตเนสไว้ให้เข้ามาออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายกันได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07:00 น. – 21:00 น. อยู่บริเวณชั้น G อาคาร 3

 

นอกจากนี้ยังมี

ห้องซาวน่าและสตีม

แยกสัดส่วนกัน ห้องซาวน่า ฝั่งผู้ชาย ห้องสตีม ฝั่งผู้หญิง

Open daily : 07:00 น. – 21:00 น.

Location : อยู่บริเวณชั้น G อาคาร 3

 

สปา

Open daily : 10:00 น. – 22:00 น.

Location : อยู่บริเวณชั้น G ห้อง Spa ESC ที่โรงแรมเรดิสันบลู หัวหิน

 


 

หลังจากเดินเล่นกันพักใหญ่ ก็กลับเข้าห้องพัก เดินออกมาหลังห้องของเราเพื่อมาชมวิวสระน้ำและต้นไม้ยามค่ำคืน ยังคงมีไฟเปิดให้แสงสว่างอยู่ จึงลงไปเล่นน้ำเย็นๆอย่างเงียบๆเพื่อให้ได้ผ่อนคลายสักหน่อย จากนั้นขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และลองหยิบขาตั้งกล้องออกจากกระเป๋ามากางแล้วตั้งค่ากล้องใช้ สปีดชัตเตอร์ต่ำเล็กน้อยก่อนจะลั่นชัตเตอร์ด้วยรีโมท ได้ภาพอิ่มแสงออกมาหลายใบเลยล่ะค่ะ

 

มองขึ้นไปบนท้องฟ้า มันมืแต่ไม่ได้มืดสนิท มีแสงระยิบระยับของดวงดาวอยู่ทั่วทั้งผืนฟ้า ขนาดด้านล่างนี้ยังเปิดไฟอยู่ยังมองเห็นหมู่ดาวชัดเจนถึงเพียงนี้ ก็อดใจไม่ได้ที่จะต้องส่องกล้องขึ้นไปเก็บภาพเอาไว้สักหน่อย

 

เราไม่คาดคิดมาก่อนว่าการเดินทางมาเที่ยวแถบนี้ในครั้งนี้จะได้นั่งดูดาวพร่างพราวเต็มท้องฟ้าแบบนี้ เกินจะบรรยายความสุขที่ได้รับจริงๆนะคะ ^^

 


 

ห้องอาหาร M café

เมื่อแสงของเช้าวันใหม่มาถึง ลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน แล้วลงไปทานอาหารเช้ากันที่ M café ค่ะ วันนี้ผู้คนคึกคักน่าดู อาจจะเป็นเพราะตรงกับวันหยุดพอดี

 

อาหารเช้าของที่นี่มีหลากหลายเมนูมากค่ะ เลือกทานกันได้อย่างเต็มที่ อิ่มหนำสำราญกันแน่นอน

 

รสชาติก็อร่อยตามมาตรฐานของไมด้า ตักมาเต็มที่ขนาดนี้อย่าคิดว่าทานไม่หมดนะคะ เรียกว่าไม่มีเหลือเลยแหละ

 


 

ทะเล

ช่วงสายๆ เราอยากออกไปทะเล ไมด้า เดอ ซี ก็จะมีรถกอล์ฟพาไปส่งที่ชายหาดของโรงแรมในเครือ อยู่ด้านหลัง ใกล้ๆนี่เองค่ะ

 

ชายหาดที่เต็มไปด้วยเปลือกหอยขนาดและสีสันต่างๆ

 

มองดูฝรั่งเล่นน้ำท่ามกลางแสงแดดกันอย่างสนุกสนาน

 

และเห็นฝรั่งคุณลุงคุณป้าเดินกันมาสองต่อสอง ดูน่ารักดีนะ ถ้าเราอายุเท่านี้แล้วมีใครสักคนแก่เฒ่าไปด้วยกัน เคียงข้างกัน ยังรักกันดูแลใส่ใจกัน และยังพากันไปเที่ยวไปพักผ่อนแบบนี้ มันก็คงดีมากๆเลยนะ ^^

 


 

Mida De Sea Hua Hin

ที่ตั้งโรงแรม : 1359/54 ซอยชะอำ 53 (ถนนบ่อเคี๊ยะ) ถนนเพชรเกษม ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัด เพชรบุรี 76120

โทรศัพท์: 032 771 976, 081 981 3508

แฟ็กซ์: 032 771 990

อีเมล: [email protected]

เว็บไซต์: https://www.midadeseahuahin.com

Mida Hotel and Resort: http://www.midahotelsandresort.com

เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/midadesea

ปิดความเห็น บน Mida De Sea Hua Hin กิน&นอนฟินๆ เที่ยวหัวหิน-ชะอำ