Hotel,  Restaurant,  travel story

ประจวบคีรีขันธ์ 2 วัน กำลังดี

ประจวบคีรีขันธ์ 2 วัน กำลังดี

ทริปนี้มากันที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ค่ะ เที่ยวง่ายๆกันที่อำเภอหัวหินและปราณบุรี ทะเล ป่าชายเลน วัด จุดชมวิว และที่พักติดทะเลแบบชิลๆ มาที่นี่ได้ครบทุกอย่างตามนี้เลยค่ะ ขับรถออกมาจากกรุงเทพ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้ว

 

แผนการท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน

– ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ร้านบ้านเรา

– จุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ

– วัดห้วยมงคล

– สวนสนประดิพัทธ์

– ที่พัก ปราณมณี บีช รีสอร์ท

– ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี

– Laciana By The Sea


ร้านบ้านเรา

เช้าวันแรก กับอาหารเบาๆอย่าง “ข้าวเกรียบปากหม้อ” ที่ “ร้านบ้านเรา” อยู่ที่ ซอยหัวหิน 37 ขับรถเข้าไปกลางซอยร้านจะอยู่ขวามือ บอกตามตรงว่าตอนแรกตั้งใจจะไปร้าน “Debo” ซึ่งเคยไปมา 2 ครั้ง แต่หลายปีมาแล้ว ครั้งล่าสุดก็ประมาณ 2 ปีได้ แต่พอไปถึงปรากฎว่าร้านเปลี่ยนไปเป็นอีกร้านแล้ว งงๆหน่อยแต่ก็จัดค่ะ หิวมากนาทีนั้น ฮ่าๆๆ แล้วมาทราบทีหลังว่าร้าน Debo เขาไม่ได้ปิดนะ แค่ย้ายร้านไปอยู่อีกที่หนึ่ง ไว้โอกาสหน้าคงได้ตามไปที่ตั้งใหม่นะคะ

 

บรรยากาศร้านยังร่มรื่นเช่นเคย บ้านสองชั้นสีขาว มีต้นไม้ร่มรื่น

 

สามารถสั่งอาหารจากเมนูตามนี้ค่ะ เริ่มจากเลือกท็อปปิ้ง ถัดมาเป็นการเลือกไส้ โดยไส้ของตัวปากหม้อจะมีให้เลือกมากถึง 8 ไส้เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารจานเดียว และของทานเล่นอีกกรุบกริบ เมนูเครื่องดื่มมีให้เลือกค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

 

ระหว่างนั่งรอ สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ และแคบหมูกรอบๆมานั่งทานเล่น

 

เรามากันสองคนสั่งเมนูปากหม้อกันทั้งคู่ เพราะมาร้านก๋วยเตี๋ยวปากหม้อก็ต้องลองเมนูประจำร้านน่ะสิเนอะ ไม่นานนักเมนูที่สั่งก็มาเสิร์ฟค่ะ โดยจะแยกตัวน้ำซุปที่ใส่ท็อปปิ้งมาในชาม และตัวปากหม้อใส่มาในจาน ชามค่อนข้างใหญ่ น่าทานมาก

 

ปรุงรสตามใจชอบได้เลย จะทานละน้าาา….


 

จุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ

จากนั้น เรามากันที่ “จุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ” เมื่อขึ้นมายังจุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ เป็นจุดชมวิวเมืองหัวหินที่สวยงามที่สุด เพราะสามารถมองเห็นตัวเมืองหัวหินได้ในมุมกว้าง หรือเรียกว่าเห็นทั้งหมดของเมืองหัวหินเลยก็ว่าได้

 

ด้านบนมีจุดชมวิวอยู่ทั้งหมด 3 จุดด้วยกันแต่ละจุดก็จะสามารถมองเห็นทางที่แตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างทางเดินไปยังจุดชมวิวเต็มไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น

 

ได้เห็นลูกน้องลิงอยู่เต็มไปหมด นอกจากนี้ยังสามารถพบเห็นสัตว์น้อยใหญ่ได้อีกมากมาย ชมวิวดังกล่าวสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้สวยไม่แพ้กับคนอื่นๆหรือถ้าขึ้นมาช่วงเย็นเขาจะสามารถมองเห็นท้องฟ้าแต่งแต้มด้วยแสงสีในช่วง Twilight ได้เช่นกัน


 

วัดห้วยมงคล

เราขับรถมายังวัดห้วยมงคล มากราบไหว้หลวงปู่ทวดองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อความเป็นสิริมงคลกันค่ะ

 

เดิมใช้ชื่อว่า “วัดห้วยคต” ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านห้วยคต ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานนามใหม่จากห้วยคตเป็นห้วย“มงคล”ซึ่งปัจจุบันใช้เป็น ทั้งชื่อหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และโครงการต่างๆ อีกมากมาย ต่อมา พระครูปภัสรวรพินิจ หรือพระอาจารย์ไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลองค์ ปัจจุบัน ซึ่งเป็น นักพัฒนาที่มีศีลจารวัตที่ดีงามเป็นที่เคารพบูชาของคนในชุมชน บ้านห้วยมงคลและพลเอก วิเศษ คงอุทัยกุลรองสมุห ราชองครักษ์ ได้มีดำริที่จะสร้าง “หลวงปู่ทวด” องค์ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพนะชนมพรรษาครบ 6 รอบ รวมทั้งเผยแผ่และสืบทอดพระพุทธศาสนา อีกทั้งใหเป็น ที่เคารพสักการะบูชา และเป็นที่พึ่งทางใจของเหล่าพุทธศาสนิกชน

 

ดอกไม้ ธูป เทียน และทองคำเปลว มีวางไว้อยู่ในซุ้มบริเวณทางเดินด้านล่าง สามารถร่วมทำบุญโดยหยอดเงินใส่ในตู้ได้ตามกำลังศัทธา

 

จากหัวหินใช้เส้นทางหนองพลับ-ป่าละอู(ทางหลวงหมายเลข 3218) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ถึงตำบล ทับใต้เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกหนองตะเภา เข้าไป ตามทางจนถึงวัดห้วยมงคล

เปิดให้เข้าทุกวัน เวลา 05.00-22.00 น.


 

สวนสนประดิพัทธ์

การเดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนทริปนี้ มาถึงหัวหินแล้วก็ต้องไม่ลืมแวะเที่ยวชายหาดชมวิวทะเลด้วย ครั้งนี้มากันที่ “สวนสนประดิพัทธ์” หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า สวนสน นั่นเองค่ะ เป็นพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์การทหารราบ เดิมทีก่อตั้งมาเพื่อให้เป็นสถานพักฟื้น และพักผ่อนของข้าราชการกองทัพบกและครอบครัว ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้

 

ไม่ใช่เพียงนักท่องเที่ยวชาวไทยเที่ยวนั้นที่มาพักผ่อนยังสวนสน ยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกมากมายต่างแวะเวียนกันเข้ามายังที่นี่ ชายหาดขนาดกว้างพอประมาณ หาดทรายค่อนข้างขาวละเอียด มีทิวสนต้นใหญ่ๆเป็นแนวยาวให้ร่มเงา และมีลมพัดเย็นๆทั้งวัน

 

บริเวณริมหาด จะมีเก้าอี้พับสีๆแบบนี้ให้บริการ คนละ 20 บาท นั่งกันไปได้ยาวๆ

 

เปิดให้เข้าทุกวัน เวลา 06.00 – 23.00 น.


 

ปราณมณี บีช รีสอร์ท

ทริปนี้เราเลยมาพักกันที่ปราณบุรีค่ะ ที่พักมีชื่อว่า ปราณมณี บีช รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่ร่มรื่นสงบเย็นสบายเดินข้ามฝั่งถนนไปก็เป็นชายหาดแล้ว ที่สำคัญเจ้าของใจดีมาก พูดคุยเป็นกันเอง ใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมต้อนรับตลอดเวลา ได้คุยกับพี่เขาแล้วรู้สึกดีกว่าการได้มาพักผ่อนเสียอีก ที่นี่สามารถพาน้องหมาตัวเล็กๆเข้ามาพักด้วยได้นะคะ ทางรีสอร์ทเขาจะมีการทำความสะอาดและกำจัดเห็บหมัดอยู่เรื่อยๆเพราะฉะนั้นสบายใจหายห่วงได้ทุกคนเลยค่ะ

 

ประเภทห้องพัก

 

– ห้องสำหรับ 2 คน

ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบแบบไม่ต้องเตรียมอะไรไปเลย แอร์ ทีวี ตู้เย็น อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องน้ำ หำระเบียงชมวิวได้

 

– บ้านสำหรับครอบครัวมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ

ประเภทนี้มีหลายหลังตัวจัดการห้องระหว่างห้องนอนอายุภายในบ้านหลังเดียวกันมีระเบียงด้านหน้าสามารถออกมานั่งเล่นได้ ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

 

– บ้านหลังใหญ่สำหรับครอบครัวใหญ่ หรือกลุ่มเพื่อน 10-12 คน

แบ่งเป็น 3 ห้องสำหรับ 3-4 คน จำนวน 2 ห้อง และอีกห้องหนึ่งสำหรับ 5-6 คนมีโซนห้องรับแขกที่สามารถใช้ร่วมกันได้และประตูเปิดปิดเชื่อมต่อระหว่างห้อง

 

ที่นี่มีสระว่ายน้ำสีฟ้าน้ำใสๆมีรูปปลาโลมาอยู่ข้างล่าง สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ด้วย

 

ภายในบริเวณรีสอร์ทมีร้านอาหารให้บริการทั้งอาหารเช้ากลางวันเย็น โดยมื้อเช้าจะเป็นบุฟเฟ่ฟรีสำหรับทุกคนที่เข้าพักส่วนมื้อกลางวันและมื้อเย็นเป็นอาหารตามสั่งค่ะ ที่เคาน์เตอร์ต้อนรับมีมินิมาร์ทขายขนมและเครื่องดื่มต่างๆด้วยนะ

 

พอตกกลางคืนก็ออกมาเดินเล่นริมทะเล นั่งรับลมเย็นๆ ดูดาวบ้าง ดูไฟริมทางบ้าง ดูแสงไฟจากเรือในทะเลบ้าง สบายใจ ^^

 


 

วันนี้ตื่นออกมา ชมพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะทราบมาว่าพระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นก่อน 6 โมงเช้า บรรยากาศยามเช้านี้มันสดชื่นดีจังเลย

 

น้ำทะเลลดลงจนมองเห็นชายหาดกว้างออกไปเดินเล่นได้อย่างสบายๆ มองเห็นโขดหิน ทิวเขาใกล้ๆคล้ายจะมีหมอกบางๆลอยอยู่ด้วย

 

ต้นสนลู่ลมพัดเอื่อยๆ น้องหมาวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน

 

 วันนี้มีอีกหลายคนที่ตื่นเช้าเหมือนเรา บ้างก็ออกมายืนถ่ายรูปคนเดียว บ้างก็ออกมาสวีทกันเป็นคู่ บ้างก็มากันเป็นครอบครัว

 

เดินเล่นไปถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ นอกจากชายหาดที่ค่อนข้างละเอียดแล้วยังมีเปลือกหอยขนาดเล็กๆเกลื่อนกลาดอยู่เต็มไปหมด

 

อ้อ ไม่ใช่แค่เปลือกหอยนะ สังเกตดีๆจะมีปูเสฉวนตัวน้อยๆเดินเล่นกันอย่างเต็มเลย

 

ที่อยู่: 161 หมู่1 ต.สามร้อยยอด อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77120

โทรศัพท์: 081-726-1679

Facebook: https://web.facebook.com/PranmaneeBeachResort


 

ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี

หลังจากเช็คเอ๊าท์แล้ว เดินทางมากันต่อที่ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการ ฟื้นฟูป่าชายเลนจากนากุ้งร้างเป็นแห่งแรกในประเทศไทย

 

เดิมทีเป็นนากุ้งที่ได้รับสัมปทาน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า – คลองคอย ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาที่ปราณบุรี กรมป่าไม้ได้สนองพระราชดำริด้วยการยกเลิกสัมปทานนากุ้ง แล้วรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ พัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมเร่งฟื้นฟูป่าชายเลนและกำหนด ให้เป็นพื้นที่เป้าหมายในการปลูกป่าและพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนในเวลาต่อมา

 

เส้นทางเดินมีสิ่งที่น่าสนใจคือ “ต้นโกงกางประวัติศาสตร์” หรือต้นโกงกางใบเล็กจำนวน 2 ต้น ที่ ในหลวง ร.9 และสมเด็จพระเทพฯทรงปลูกที่ศูนย์แห่งนี้ ต้นโกงกางถือเป็นไม้เด่นประจำป่าชายเลน และด้านในศูนย์ได้รับ 10 สุดยอดประสบการณ์ “มหัศจรรย์ป่าสร้าง” ที่รวมความหลากหลายบรรยากาศแห่งความประทับใจไว้

 

เจอปลาตีนตัวใหญ่ด้วย ใหญ่มากจริงๆ

 

ปูแสมก็มีอยู่เยอะมากๆ

 

เปิดให้เข้าทุกวัน เวลา 08:30 – 16:30 น.


 

Laciana By The Sea

ก่อนกลับเข้ากรุงเทพ แวะทานอาหารกลางวันกันที่ Laciana By The Sea ก่อนค่ะ เลี้ยวเข้ามาที่ซอยหัวหิน 3 สุดซอยก็จะพบกับป้ายร้าน ทางร้านมีที่จอดรถไว้ให้บริการด้วยค่ะ จอดรถเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปในร้านได้เลย

 

คอนเซ็ปต์ของร้านคือ อิตาเลียนบ้านนอก หรือที่เราเรียกว่า European Country นั่นแหละค่ะ เข้ามาในร้านเจอบรรยากาศเข้าไปรู้สึกตกหลุมรักเลย

 

บรรยากาศร่มรื่นสบายๆแบบเป็นกันเองแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่งดงามด้วยดีไซน์การตกแต่งในแต่ละมุมของร้าน รวมไปถึงการจัดสวนมีลานน้ำพุ ที่นั่งใต้ร่มหลังคา ที่นั่งใต้ร่มไม้ ที่นั่งแบบโอเพ่นแอร์ และที่นั่งในมุมที่สามารถชมวิวทะเลได้อย่างกว้างไกล ที่สำคัญที่นี่สามารถพาน้องหมาเข้ามาได้ด้วยนะคะ

 

แค่ห้องน้ำก็สวยจับใจแล้วนะ สีเหลืองสดใส ตกแต่งสวยงามทุกมุมจริงๆ

 

อาหารของทางร้านจะเป็นอาหารแบบเมดิเตอเรเนียน มีให้เลือกหลากหลายเมนู คาว หวาน ครบที่นี่เลยล่ะค่ะ

 

ลาเซียน่าเหยือก

เริ่มจากเครื่องดื่มเก๋ๆมาพร้อมกับหลอดย้าวยาว เห็นแล้วสะดุดตาเป็นที่สุด แก้วนี้ชื่อว่า ลาเซียน่าแบบเหยือก เป็นมิกซ์เบอร์รี่อิตาเลี่ยนโซดา หวานอมเปรี้ยวนิดๆ มีเนื้อเบอร์รี่รวมหลายชนิดให้ทานเพื่อเพิ่มอรรถรสได้ด้วย

 

สลัดกรีซ

ผัดผักสดๆที่โรยมาด้วยก้อนชีสเครื่องเทศต่างๆและน้ำสลัดแบบใส รสชาติค่อนข้างมันจะชีส และออกเค็มเล็กน้อย ทานรวมๆแล้วอร่อยกำลังดี

 

หอยเชลล์ลาเซียน่ากะทิ

เมนูนี้ยกให้เป็นที่สุดในดวงใจของคนชอบทานหอยเชลล์อย่างเราเลยล่ะค่ะ หอยเชลล์ชิ้นใหญ่แบบเต็มปากเต็มคำ เนื้อแน่นเด้งการันตีความสด ปรุงสุกแล้วเนื้อยังแน่นเด้งได้ขนาดนี้ ซอสกะทิและเครื่องเคียงต่างๆที่ใส่มาไว้ให้ทานได้แบบทีละคำเข้ากันได้อย่างดี

 

กุ้งอบโรสแมรี่

กุ้งตัวโตๆกบกับโรสแมรี่ปรุงรสมาได้อย่างกลมกล่อม เนื้อกุ้งแน่นเด้งดีมาก สมกับกลิ่นหอมกรุ่นๆของโรสแมรี่ ทานหาคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วฟินสุดๆ

 

พิซซ่าเห็ดทรัฟเฟิล

พิซซ่าของที่นี่อบด้วยเตาฟืน ทำกรอบและหอมเป็นเอกลักษณ์ ไม่รู้จะอธิบายด้วยคำไหนดี บอกได้แค่ว่าเป็นพิซซ่าที่อร่อยมาก

 

ปลากะพงย่างมะนาวลาเซียน่า

ชิ้นเนื้อปลากระพงไร้ก้างนุ่มๆ ทานกับผักที่อยู่ด้านล่างซึ่งผ่านการย่างมาด้วยกันราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด ทำให้ได้รสชาติที่ละมุนดีมาก

 

สปาเก็ตตี้พริกแห้งเบคอน

สปาเก็ตตี้เส้นเล็ก ลวกมาแบบกำลังดี เมื่อตัดออกมาแล้วเส้นจึงเหนียวนุ่ม เครื่องเคียงต่างๆ พริกแห้งและเบคอน ทำให้ได้รสชาติอร่อย ทานแล้วต้องทานอีกจนหมดจาน

 

ที่อยู่: ซอยหัวหิน 3 ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110

เวลาทำการ: 12.00 – 22.00 น.

โทรศัพท์: 093-776-7997

Facebook: https://web.facebook.com/lacianabythesea

 

ทริปนี้ต้องขอบคุณรถเช่าจาก Avis Thailand ค่ะ ที่นี่เขามีให้บริการรถเช่าที่หลากหลาย ทั้ง บริการรถเช่าแบบขับเอง เช่าแบบพร้อมคนขับ ลีมูซีนพร้อมคนขับ และมีให้บริการมากถึง 29 สาขาทั่วประเทศเลยด้วย

 

ปิดความเห็น บน ประจวบคีรีขันธ์ 2 วัน กำลังดี