เก็บข้อมูลก่อนเที่ยว Hong Kong
ฮ่องกง (Hong Kong)
มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเขตปกครองตนเองริมฝั่งทางใต้ของประเทศจีน ฤดูร้อนอากาศร้อนชื้น มีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 26-30 องศาเซลเซียส ฤดูหนาวอากาศเย็นสบายและค่อนข้างแห้ง บางช่วงอาจมีอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนจะมีฝนตกชุกและมีลมแรง ช่วงฤดูร้อนมักเกิดลมมรสุม
อัตราการแลกเปลี่ยนเงิน
สกุลเงินฮ่องกง คือ ดอลลาร์ฮ่องกง (HKD / HK$) เรทเงินช่วงนี้อยู่ที่ประมาณ 4.3 ถ้าเทียบ 100 บาท จะได้ (100 ÷ 4.3) ประมาณ 23 HK$ หรือจะเรียกง่ายๆว่า 1 HK$ เท่ากับ 4-5 บาทก็ได้ เงินที่ใช้ในฮ่องกงจะมีทั้งเหรียญ ที่ออกโดยรัฐบาล และธนบัตร ออกโดยธนาคาร 3 แห่ง (ธนาคารเอชเอสบีซี, ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และธนาคารแห่งประเทศจีน) ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
เหรียญกษาปณ์ (ออกโดยรัฐบาล / 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 100 เซ็นต์)
10c – ทำจากทองสำริด มีลักษณะเป็นวงกลม ขนาดเล็ก
20c – ทำจากทองสำริด มีลักษณะเป็นวงกลม มีรอยหยักที่ขอบ ขนาดเล็ก
50c – ทำจากทองสำริด มีลักษณะเป็นวงกลม ขนาดกลาง
HK$1 – ทำจากเงิน มีลักษณะเป็นวงกลม บาง ขนาดใหญ่
HK$2 – ทำจากเงิน มีลักษณะเป็นวงกลม มีรอยหยักที่ขอบ ขนาดใหญ่
HK$5 – ทำจากเงิน มีลักษณะเป็นวงกลม หนา ขนาดใหญ่
HK$10 – ทำจากทองสำริดและเงิน มีลักษณะเป็นวงกลม ขนาดกลาง
ธนบัตร
HK$10 – สีเขียวหรือสีม่วง (ธนบัตรสีม่วงออกโดยรัฐบาล)
HK$20 – สีน้ำเงินเข้มหรือสีน้ำเงินอ่อน (แบบเก่าหรือแบบใหม่)
HK$50 – สีม่วงหรือสีเขียว (แบบเก่าหรือแบบใหม่)
HK$100 – สีแดง
HK$500 – สีน้ำตาล
HK$1,000 – สีเหลือง
การเดินทางสู่ฮ่องกง
ในปัจจุบันการเดินทางจาก กรุงเทพฯ สู่ ฮ่องกง สามารถเดินทางด้วยสายการบินได้อย่างสะดวกสบาย โดยมีให้เลือกช่วงเวลาต้นทางได้หลายเที่ยวบินต่อวัน ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางไม่เกิน 3 ชั่วโมงเท่านั้น แถมยังมีโปรโมชั่นจากสายการบินออกมาอยู่เป็นประจำอีกด้วย
การเดินทาง ไป-กลับ สนามบินฮ่องกง
จากสนามบินฮ่องกงสามารถใช้บริการรถไฟใต้ดิน สายสีเขียว ออกมาได้ มีอีกหนึ่งทางเลือก คือ Airport Express ถ้าหากว่าที่พัก หรือปลายทางอยู่ไม่ไกลจากสถานี แอร์พอร์ต เอ็กเพรส แบบไม่ต้องต่อรถไฟใต้ดินก็เลือกใช้ทางนี้ได้เลย ราคาอาจจะสูงสักหน่อย อยู่ที่เที่ยวละประมาณ 60-100 เหรียญ แต่ถ้าซื้อแบบ ไป-กลับ ก็จะถูกลงอีก 10 เหรียญ/เที่ยว ส่วนข้อดีของการใช้บริการแอร์พอร์ต เอ็กซ์เพรส ก็คือ ในวันเดินทางกลับ สามารถนำกระเป๋าสัมภาระไปทำการเช็คอินในสถานีรถไฟ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเราไปยังสนามบินก่อน เรียกว่า In-town Check in โดยที่เรายังสามารถเดินไปช็อปปิ้งได้อย่างสบายตัว แล้วตามกลับเข้าไปยังสนามบินโดยที่ไม่ต้องทำการเช็คอินอีก เพียงแค่ต้องสอบถามไปทางสายการบินไว้ก่อนว่ามีบริการรองรับระบบนี้อยู่ด้วยหรือไม่ (เหมาะสำหรับ คนที่พักอยู่ฝั่งเกาลูน ละแวก จิมซาจุ่ย จอร์แดน มงก๊ก และบริเวณใกล้เคียง) และจะมี Free Shuttle Bus ไว้คอยให้บริการ รับ-ส่ง ฟรี ระหว่างโรงแรมใหญ่ๆหลายโรงแรม กับ สถานีรถไฟใต้ดิน 2 สถานีคือที่สถานี Kowloon Station สำหรับโรงแรมที่อยู่ฝั่ง Kowloon และสถานี Hongkong Station สำหรับโรงแรมที่อยู่ฝั่งเกาะฮ่องกง โดยสามารถสอบถามจากพนักงานที่ขายตั๋วได้ สามารถดูโรงแรมที่จอดส่งได้ที่ http://www.mtr.com.hk/en/customer/services/complom_free_bus.html (ถ้าที่พักอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมดังกล่าว ไปลงที่นั่นแล้วเดินต่อ)
หรืออีกวิธีหนึ่ง ถ้าเน้นประหยัดก็สามารถเลือกใช้บริการ Citybus Cityflyer หรือเรียกว่า Airport Bus จะวิ่งจากสนามบินไปตามเส้นทางสำคัญทั่วเมืองฮ่องกง ซึ่งจะมีรถออกทุก 15-20 นาที ค่าโดยสารเที่ยวละ 40 เหรียญ โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.nwstbus.com.hk/routes/airport-bus/route/index.aspx?intLangID=1
การเดินทางภายในฮ่องกง
ภายในฮ่องกง สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟใต้ดิน (MRT) และรถบัส ในเมืองบางจุดจะมีรถราง (Tram) ไว้คอยให้บริการด้วย ส่วนบัตรที่ใช้เดินทาง หลักๆที่หลายคนเลือกใช้ก็คือ “บัตรเติมเงิน Octopus” เป็นบัตรที่ใช้จ่ายค่าเดินทางในฮ่องกงได้ทุกรูปแบบ ทั้ง รถบัส รถไฟ รถราง ที่จอดรถ บริการต่างๆ เช่น ตู้ Locker ร้านอาหาร ศูนย์อาหาร และใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อต่างๆได้ เป็นบัตรที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกใช้ ส่วนวิธีการใช้งานก็ง่ายเหมือนบัตรรถไฟฟ้าบ้านเรา แค่แตะที่แป้นเท่านั้น สามารถเติมเงินได้เองที่ตู้อัตโนมัติหรือที่เคาน์เตอร์ตามสถานีรถไฟ ขั้นต่ำ 50 เหรียญ สามารถซื้อได้ตามสถานีรถไฟทุกสถานี โดยจะมีอยู่ 2 แบบให้เลือก คือ
- แบบเช่าบัตร (On-Loan Octopus Card) เป็นแบบที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกใช้ สามารถซื้อได้ตามสถานีรถไฟใต้ดินทุกแห่ง ราคาขั้นต่ำ 150 เหรียญ โดยจะมีเงินในบัตรที่ใช้ได้แค่ 100 เหรียญ ส่วนอีก 50 เหรียญเป็นค่ามัดจำบัตร ซึ่งสามารถคืนบัตรได้ โดยจะถูกหักค่าใช้บัตร 9 เหรียญ ตัวอย่างเช่น ถ้าเงินในบัตรเหลือ 25 เหรียญ เมื่อนำไปคืนจะได้เงินมา 25 + 50 – 9 = 66 เหรียญ การคืนบัตร Octopus สามารถคืนได้ที่เคาน์เตอร์ตามสถานีรถไฟทุกสถานี หรือที่สนามบิน แต่ต้องระวังในกรณีที่บัตรเสียหายจะคืนไม่ได้
- แบบซื้อบัตร (Sold Tourist Octopus Card) เหมาะสำหรับคนชอบสะสมหรือต้องการเก็บไปเป็นที่ระลึก เพราะจะเป็นแบบที่เราซื้อบัตรมาเลย จะคืนบัตรไม่ได้ โดยจะเสียค่าบัตร 39 เหรียญ และในบัตรจะไม่มีเงินอยู่เลยต้องนำไปเติมเงินก่อนจึงจะใช้ได้ บัตรแบบนี้จะสามารถซื้อได้เฉพาะที่ร้านสะดวกซื้อเช่น 7/11 หรือแบบ Online เท่านั้น ไม่สามารถซื้อที่เค้าเตอร์ทั่วไปได้
ที่พัก
ที่พักในฮ่องกงมีหลากหลายรูปแบบและหลายราคาให้เลือก ตั้งแต่ราคาหลักร้อยจนถึงราคาหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับคุณภาพและทำเลที่ตั้ง แนะนำให้หาเลือกจองที่พักจาก Traveloka : https://www.traveloka.com/th-th/hotel/hong-kong/region/hong-kong-10011651 ในนี้จะมีข้อมูลให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นราคาที่ถูกกว่า มีโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลด ออกมาให้เป็นประจำ มีรีวิวจากผู้เข้าพักจริงให้อ่าน มีข้อมูลระยะทางว่าห่างจากสถานที่สำคัญๆตรงไหนกี่กิโลเมตรบ้าง
และที่จำเป็นสำหรับนักเดินทางเป็นอย่างมาก คือ สามารถเข้าดูหน้าแผนที่ได้ เลือกได้เลยว่าเราต้องการไปเที่ยวแถบไหนแล้วจะพักตรงจุดไหน