Phra Singh Village, Chiang Mai
Phra Singh Village, Chiang Mai
เวลาอยากหาที่เที่ยวแบบพักผ่อนหย่อนใจได้ทีไร ก็คิดถึงเชียงใหม่ทุกที จังหวัดนี้จึงเป็นจังหวัดที่มีการเก็บลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปเอาไว้มากที่สุด และแน่นอนว่าเป็นจังหวัดที่เดินทางไปบ่อยที่สุดด้วยเช่นกัน ถ้าให้อธิบายเหตุผลก็คงยืดยาวหลายหน้ากระดาษ สรุปสั้นๆก็คงเป็นเพราะที่นี่เดินทางง่าย อาหารอร่อย บรรยากาศดี ที่เที่ยวเยอะ ผู้คนน่ารัก ไปทีไรก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ในครั้งนี้ ความสุขกายสบายใจแทบทั้งหมด ต้องยกให้ที่พักอันหรูหราในราคาจับต้องได้ อย่าง Phra Singh Village ที่จะทำให้ทริปพักผ่อนหย่อนใจนั้นแสนจะสุขสบายไปได้ทุกช่วงเวลาที่ได้อยู่ในนี้ บอกได้แค่ว่ามาพักที่นี่แทบไม่ต้องออกไปไหนไกลเลย อยู่แต่ในที่พักก็มีความสุขมากที่สุดแล้วจริงๆ
เราใช้เวลา 2 วัน 1 คืน เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศและได้รับบริการที่ดีเยี่ยม เริ่มตั้งแต่ขับรถตามพิกัด GPS เข้าไปยัง ถนนราชมรรคา ซึ่งอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปยัง ซอยราชมรรคา 8 จะผ่าน Makkha Health & Spa เข้าไปอีกหน่อยก็จะพบกับโรงแรมอยู่ทางซ้ายมือ มีที่จอดรถบริเวณด้านหน้า
เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ออกมาต้อนรับพร้อมกับช่วยยกกระเป๋าเข้าไปด้านในให้ และเดินเข้าไปด้านซ้าย ยังหน้าล็อบบี้ได้เลยค่ะ
ที่นี่ได้รับการตกแต่งสไตล์ล้านช้าง มีกลิ่นอายของเมืองเชียงใหม่ทุกมุมตั้งแต่ด้านหน้าโรงแรมเข้ามาเลยล่ะค่ะ บริเวณล็อบบี้จะมีที่นั่งซึ่งตกแต่งเอาไว้งดงาม มีโต๊ะตั้งพระพุทธรูปและหลังสือท่องเที่ยวต่างๆวางเอาไว้มากมาย รวมถึงเครื่องสมุนไพรที่ใช้ในสปาด้วย
เมื่อเดินเข้ามาแล้ว จะมีพนักงานต้อนรับออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม และพวงมาลัยดอกมะลิหอมฟุ้ง นำมาคล้องคอให้ น่ารักๆแบบนี้
หรือถ้าหากว่ามาถึงแล้วรู้สึกปวดเมื่อย ก็จะมีบริการ นวดช่วงบ่าถึงศีรษะ ฟรี! โดยมืออาชีพอยู่ใกล้ๆล็อบบี้นี่เลยค่ะ ให้บริการในช่วงเวลา 12.30 – 17.30 น. และด้านหลังนั้นจะวางผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสปาไว้ สามารถเลือกชมเลือกซื้อได้ที่นี่เช่นกันนะคะ
ต่อมาก็รอรับ Welcome Drink เป็นน้ำอัญชัน และผ้าเย็น ให้ชื่นใจกันก่อนเข้าห้องพัก
ประเภทห้องพัก
ที่โรงแรมพระสิงห์วิลเลจ จะมีประเภทห้องพักทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้
Superior Twin Room
Deluxe double Room with Balcony
Grand Family Superior Room
Grand Family Suite with Balcony
สำหรับครั้งนี้เราพักที่ห้องประเภท Deluxe Double Room with Balcony มีพื้นที่ใช้สอย 45 ตารางเมตร ถือว่าเป็นห้องพักที่มีขนาดกว้างมาก
มีระเบียงที่สามารถเปิดออกไปนั่งรับลมชมวิวต้นไม้ด้านหลังได้เลย
มีหน้าต่างเป็นกระจกใส เปิดปิดผ้าม่านได้ พร้อมด้วยที่นั่งซึ่งสามารถเสริมฟูกที่นอนเป็นอีก 1 เตียง สำหรับเด็กได้ด้วย
เตียงนอนขนาดคิงไซส์ (6ฟุต) ที่นอน หมอน ผ้าห่มนิ่มๆ ได้นอนลงไปแล้วแทบไม่อยากลุกขึ้นมา เรียกได้ว่าสบายที่สุดเลยค่ะ
มีผลไม้วางไว้ให้ทานในห้องด้วยนะคะ
เมื่อหันไปอีกทาง จะเป็นมินิบาร์ ทีวี ห้องแต่งตัวและห้องน้ำ
แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองหลังจากที่ได้ฟังคำแนะนำและอธิบายการใช้งานต่างๆภายในห้อง เกี่ยวกับบริเวณมินิบาร์ คือ “สามารถทานขนมและเครื่องดื่มต่างๆได้ โดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มนะคะ จะมีเติมวันต่อวันด้วยค่ะ” ความรู้สึกคือ….. ใช่เหรอ จริงเหรอ ไม่เคยเจอว่ามีที่ไหนทำแบบนี้เลยนะ ฟรีทุกอย่างจริงๆเหรอ.. แล้วลองมองดูสิคะว่านั่นไม่ใช่น้อยๆเลย เขาใจมาก!! ใจกับลูกค้ามากจริงๆ แบบนี้ก็ได้ใจไปเต็มๆเลยค่ะ
บริเวณนี้ขอเรียกว่า “ห้องแต่งตัว” มีโต๊ะกระจก ตู้เสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นมากมาย ซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ
ถัดเข้าไปคือ ห้องน้ำขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์ต่างๆครบครัน รวมถึงอ่างอาบน้ำอันแสนสบายด้วย
Grand Family Superior Room
มีโอกาสได้เข้าไปชมห้องพักอีกหนึ่งประเภท นั่นคือ Grand Family Superior Room เป็นห้องสำหรับครอบครัวที่มีพื้นที่กว้างขวางถึง 41 ตารางเมตร เตียงนอนขนาดใหญ่ 2 เตียง สามารถนอนได้ถึง 4 คน และสามารถเสริมเตียงนอนสำหรับเด็กได้อีก 1 เตียงค่ะ อุปกรณ์เครื่องใช้อำนวยความสะดวกครบครันทุกอย่าง
Afternoon Tea
ที่นี่มีมุมที่จัด Afternoon Tea ในช่วงเวลา 14.00 – 15.30 น. ทุกวัน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม ใช่ค่ะ ฟรี! จริงๆค่ะ ทั้งเครื่องดื่ม ขนม ผลไม้ มีให้เลือกทานหลากหลายมาก ถือเป็นการรองท้องระหว่างมื้อในช่วงที่เข้ามาเช็คอินได้อย่างดีมากๆ