บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก “หมู่บ้านในม่านหมอก”
บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก “หมู่บ้านในม่านหมอก”
ช่วงฤดูฝนเป็นช่วงพีคของการไปเที่ยวชมหมู่บ้านเล็กๆท่ามกลางสายหมอก ที่เคยเป็นชุมชนชาวเหมืองมาก่อน ปัจจุบันนั้นไม่มีการทำเหมืองแล้ว แต่ชาวบ้านยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติที่แฝงไปด้วยความงดงามและความอบอุ่นเอาไว้ ด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดและมีหมอกลงในช่วงหน้าฝน จึงทำให้ที่นี่เป็นอีกจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย
จุดเด่นของหมู่บ้านอีต่องแห่งนี้ นอกจากจะอยู่ที่อากาศ หมอก และความเป็นกันเองของชาวบ้านแล้ว อ่างน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นแม้ในมุมสูง ก็นับเป็นจุดสำคัญ ซึ่งปัจจุบันมีปลาคาร์ฟสีสันสดใสแหวกว่ายไปมาอยู่นับไม่ถ้วน
สามารถซื้ออาหารให้ปลาคาร์ฟได้ด้วยค่ะ
ตรงนี้คืออีกมุมยอดฮิต สะพานที่เต็มไปด้วยแผ่นไม้รูปทรงต่างๆ มีเขียนถ้อยคำแล้วแต่ผู้เขียน ห้อยเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
บรรยากาศชวนนฝันที่ใครหลายคนก็อยากมาที่นี่ ยิ่งช่วงวันไหนฝนตก หมอกก็จะยิ่งลงเยอะ
.
บางช่วงหมอกหนาจนแทบมองอะไรไม่เห็น จะเห็นได้เลือนรางเพียงระยะประมาณ 200-300 เมตรเท่านั้นเอง
ภายในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ จะมีตลาดสองข้างทางตรงถนนช่วงกลางหมู่บ้าน มีลักษณะคล้ายถนนคนเดิน ขนม ของกิน ของใช้ เสื้อผ้า ของต่างๆมากมาย จำหน่ายในราคาไม่แพง
และมีน้องหมาเยอะมาก แต่ละตัวก็น่ารัก ขี้เล่น เป็นกันเองสุดๆ โดยเฉพาะเวลาเห็นใครถือของกินน้องๆจะชอบเดินตามไปทำหน้าอ้อนวอน ^^
6 จุด ไฮไลท์แนะนำ
1. ริมอ่างน้ำ
บรรยากาศสุดโรแมนติก เดินเล่นริมอ่างน้ำ ให้อาหารปลาคาร์ฟ ถ่ายรูปสวยๆ อีกฝั่งเป็นโฮมสเตย์ที่ได้บรรยากาศแบบฟินสุดๆไปเลย
2. ทางเข้าเหมืองปิล็อก
เรียกว่าเป็นโลเคชั่นชั้นดีสำหรับถ่ายรูปเดินเข้าไปไม่ไกลมาจะได้พบกับพื้นที่ที่เก็บอุปกรณ์และรถสำหรับใช้ในเหมืองเมื่อก่อน
เดินเข้าไปอีกหน่อยจะพบแอ่งน้ำเล็กๆที่ใสมาก เย็นมาก ถึงจะเป็นแอ่งเล็กๆก็เต็มไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติ รายล้อมด้วยแมกไม้เขียวชอุ่ม
มีบ้านหลังใหญ่ทรงสวย ที่ชาวบ้านเล่าว่าเป็นบ้านพักของเจ้าของสัมปทาน แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีคนอาศัยอยู่แล้ว
3. ช่องทางมิตรภาพ
ขับรถเลยขึ้นไปจากบ้านอีต่องไม่ไกล จุดนี้สามารถเดินเข้าไปเที่ยวชมได้ ซึ่งเมื่อเดินผ่านไม้กันเข้าไปแล้วนั่นคือได้เข้าเขตพม่าแล้วล่ะค่ะ ทางเดินจะเป็นช่องที่ตัดถนนผ่านภูเขา สามารถเดินเข้าไปยืนชมวิว และจะได้เห็นหมูบ้านทางฝั่งพม่าอยู่ไม่ไกลด้วย ที่นี่จะมีหารพม่าประจำการอยู่ด้วย แต่สบายใจได้ค่ะ เดินเล่นถ่ายรูปบริเวณนี้ได้สบายๆ
4. เนินเสาธง
กลับลงมาจากช่องทางมิตรภาพประมาณ 100-200 เมตร จะพบกับทางขึ้นจุดชมวิวเนินเสาธง จุดนี้ต้องเดินขึ้นบันไดไปเล็กน้อย ด้านบนสามารถยืนชมวิวธรรมชาติฝั่งพม่าและบ้านอีต่องได้บางส่วน มีเสาธงของไทยและพม่าขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ และบริเวณบันไดทางขึ้นลงนั้นจะมีสินค้าของพม่าจำหน่ายในราคาไม่แพงด้วย
5. เนินช้างศึก
ฐานช้างศึก หรือ เนินช้างศึก บางคนเรียก ยอดดอยปิล็อก บ้างก็เรียก ต่องปะแล จะอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านอีต่อง เป็นฐาน ตชด. บริเวณจุดชมวิวเขาสูง (เนินช้างศึก) เป็นจุดยุทธศาสตร์จุดหนึ่งของชายแดนไทย-พม่า ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นฐานที่มั่นของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) ซึ่งปัจจุบันนั้นนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาเที่ยวชมได้ สามารถมองเห็นหมู่บ้านอีต่องได้ในมุมกว้าง โดยเฉพาะช่วงเช้าๆบรรยากาศดีที่สุด ได้เห็นทะเลหมอก และแสงอ่อนๆยามเช้า หากเป็นช่วงฤดูหนาวหรือฤดูร้อนที่ไม่มีหมอกนั้น ก็จะสามารถชมวิวได้อย่างกว้างขวางทั้งช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้เลย
ชมบรรยากาศแบบต่อเนื่องหลายๆมุมกันเลยค่ะ สถานที่จริงนั้นฟินกว่าในรูปมาก
แต่ต้องบอกก่อนว่า ทางขึ้นลงเนินช้างศึกนั้น เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม และมีทางขระขระเป็นโคลนเละบางช่วง ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่อย่างสูง
6. น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อยู่ห่างจากอุทยานฯประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีชั้นเดียว ซึ่งจะอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านอีต่อง สามารถแวะเข้าเที่ยวชมหรือเล่นน้ำได้ แนะนำเป็นช่วงขากลับค่ะ หลังจากถึงปากทางเข้าน้ำตกนั่งรถเข้าไปประมาณ 2.8 กิโลเมตรจะถึงลานจอดรถ และเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 500 เมตรเท่านั้น โดยจะมีค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท รถยนต์ คันละ 30 บาท
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของอำเภอทองผาภูมิ น้ำใส ตื้น สามารถลงเล่นได้ มีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยดูแลอยู่ตลอด เว้นแต่บางช่วงที่น้ำไหลแรงและสูง จะไม่สามารถลงเล่นใกล้ตัวน้ำตกได้ แต่สามารถลงเล่นบริเวณที่น้ำไหลออกมาไกลจากตัวน้ำตกเล็กน้อยได้
เมื่อนักท่องเที่ยวต่างพากันมาเยือนเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเปิดโฮมสเตย์ให้พัก ซึ่งมีจำนวนหลายหลัง แต่ทว่า บางช่วงโดยเฉพาะช่วงไฮซีนซั่นในฤดูฝนนั้น ที่พักทุกที่ในหมู่บ้านก็ยังไม่เพียงพอเพื่อการต้อนรับ หมู่บ้านอีปู่ จึเป็นอีกทางเลือก เนื่องจากอยู่ห่างจากบ้านอีต่องเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งจะอยู่ก่อนถึงบ้านอีต่อง
ที่บ้านอีปู่ก็มีที่พักไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวเช่นกัน แถมยังมีอากาศเย็นสบายใกล้เคียงกับบ้านอีต่องด้วย แนะนำ 2 ที่พักในบ้านอีปู่
1. อีปู่ริมธาร โฮสสเตย์
จุดเด่นของที่นี่คือ เป็นบ้านหลังๆที่สามารถพักได้หลังละ 2 คน บริเวณด้านหลังเป็นลำธารและน้ำตกเล็กๆที่มีน้ำใสไหลเย็นๆตลอด สามารถลงเล่นน้ำได้ หรือจะเดินข้ามฝั่งไปนั่งเล่น นั่งปิคนิคบนสนามหญ้ากว้างๆก็ได้เช่นกัน สามารถขอเช่ายืมเตาปิ้งย่างประกอบอาหารได้ด้วยนะคะ ในบางวันจะมีหมอกลอยมายังหน้าบ้านพักด้วยค่ะ ที่พักราคาหลังละ 1,000 บาท ซึ่งจะมีอาหารเช้าเป็นข้าวต้ม และไข่เจียว ให้ด้วย
2. บ้านภูฟ้า ปิล๊อกฮิลล์
อีกหนึ่งที่พักที่บรรยากาศดี สามารถเดินเล่น ชมวิวธรรมชาติและหมูบ้านอีปู่ได้ โดยจะอยู่ติดกับสถานีตำรวจภูธรตำบลปิล็อก จอดรถไว้บริเวณหน้าสถานีตำรวจได้เลยค่ะ ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ แต่จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากที่นี่มีอากาศเย็นตลอดอยู่แล้ว ช่วงหน้าฝนแบบนี้แค่เปิดพัดลมเบอร์ 1 ก็ต้องนอนห่มผ้าแล้วล่ะค่ะ ที่พักราคาหลังละ 1,000 บาท ซึ่งจะมีอาหารเช้าเป็นข้าวต้ม และไข่เจียว ให้ด้วย
ทั้ง 2 แห่งนี้ เจ้าของเดียวกันนะคะ สามารถติดต่อสอบถามที่ เบอร์โทรศัพท์ 095-305-9036 / 083-857-5277 หรือที่ Line ID: nimnp
การเดินทางสู่บ้านอีต่อง
1. รถยนต์ส่วนตัว : จากตัวเมืองกาญจนบุรี ไปอำเภอทองผาภูมิ 146 กิโลเมตร จากตัวอำเภอทองผาภูมิ ไปบ้านอีต่องอีกประมาณ 70 กิโลเมตร เริ่มจากถนนสายหลักตัวเมืองกาญจนบุรี ถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปอำเภอไทรโยค – ทองผาภูมิ(หมายเลข 323) เส้นทางจะต่อกับเส้น 3272 เข้าอำเภอทองผาภูมิ วิ่งผ่านตัวอำเภอ เลียบอ่างเก็บน้ำในเขื่อนไปอีกประมาณ 30 กิโลเมตร จะถึงสามแยกบ้านไร่-ปิล๊อก ให้เลี้ยวซ้ายไปทางปิล๊อก จากจุดนี้จะเป็นเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ผ่านอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมาประมาณ 13 กิโลเมตร จะถึงทางเข้าน้ำตกจ๊อกกระดิ่น-เหมืองสมศักดิ์-เนินช้างศึก ซึ่งเป็นเส้นทางไปสุดทางที่หมู่บ้านอีต่อง
จากกรุงเทพ เราใช้บริการรถเช่าจาก Avis Thailand โดยไปรับรถที่สนามบินดอนเมือง แล้วเปิดพิกัดใน GPS จากนั้นก็ขับไปตามทางได้แบบสบายๆ ที่นี่มีให้บริการรถเช่า ทั้งแบบขับเอง แบบพร้อมคนขับ และรถตู้ รถลีมูซีน พร้อมคนขับด้วย ที่สำคัญคือ มีหลายสาขาทั่วประเทศเลยล่ะค่ะ
2. รถโดยสารสาธารณะ : จากตัวเมืองกาญจนบุรี ขึ้นรถสายไหนก็ได้ที่ไปลงตลาดทองผาภูมิ แล้วต่อรถสองแถวสีเหลือง สาย ทองผาภูมิ – อุทยาน – อีต่อง ราคาคนละ 70 บาท มีเพียงแค่ 4 รอบ 10:30 – 11:30 – 12:30 – 13:30 น. แต่แนะนำว่าให้ไปเช้าๆ เพราะบางครั้งรถไม่ได้ออกตามเวลา ถ้าหากมีคนเต็มก็ออกก่อน
การเดินทางในตำบลปิล๊อก
ถ้าหากไม่ได้ขับรถขึ้นมาเอง ที่หมู่บ้านอีต่องจะมีรถของชาวบ้านไว้คอยให้บริการพาเที่ยว ซึ่งจะมีป้ายเขียนประกาศติดไว้หลายจุด บางคันก็จะจอดอยู่ตามถนนในหมู่บ้าน คอยเรียกถามกันตลอดอยู่แล้ว ราคาก็ไม่แพงนะคะ
รายชื่อที่พักในบ้านอีต่อง
ที่พักในหมู่บ้านอีต่องและใกล้เคียงมีอยู่จำนวนเยอะ แต่ถ้าหากในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่นอย่างหน้าฝน อาจจะเต็มไว แนะนำให้วางแผนและติดต่อจองล่วงหน้าไว้เนิ่นๆนะคะ และดีที่สุดคือ การโทรถาม ไล่โทรแต่ละที่เลยค่ะ แต่ละที่จะอยู่ไม่ไกลกันมาก
– ปิล๊อกต๊อกแต๊ก : 080-778-8315 / 065-537-6371
– บ้านทานตะวันโฮมสเตย์ปิล๊อก : 080-781-5729
– อาร์มโฮมสเตย์ : 086-170-3410
– บ้านมหัตกีรติ : 082-293-7747
– ปิล๊อกไมนิ่ง : 062-363-9128 / 065-079-8545
– กลิ่นไอหมอก : 096-343-3299
– เหมืองในหมอก : 081-602-1858
– บ้านพักปิล๊อกผาแปโฮมสเตย์ : 063-214-5478
– Pilok Hill House : 080-781-5702
– เอี่ยวขวัญ : 092-497-3515
– Love ปิล๊อก : 098-381-5999
– อีต่องโฮมสเตย์ : 095-164-8849
– ปิล๊อก การ์เด้นฮิลล์ : 095-606-4606
– บ้านน้ำค้าง : 065-690-5848
– บ้านคุณพ่อ โฮมสเตย์ ปิล๊อก : 061-350-8835
– ณัตเอ่งต่องเฮ้าส์ : 081-805-3420
– วินวินโฮมสเตย์ : 065-968-5126
– อีปู่ริมธารโฮมสเตย์ : 095-305-9036 / 083-857-5277
– บ้านภูฟ้า ปิล๊อกฮิลล์ : 095-305-9036 / 083-857-5277