Brique Hotel Chiangmai

วิวธรรมชาติโดนใจ ในตัวเมือง

“ทำงานอยู่ในเมืองนานๆก็แอบทรมานหัวใจ คิดถึงแต่เชียงใหม่ ไปกี่ครั้งก็ยังไม่พอ”

คนชอบเที่ยวแต่ทำงานประจำอย่างเรา บางทีก็มีบ้างนะที่คิดอยากไปเที่ยวๆๆๆเป็นเดือนๆ ไปมันเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั่น แต่พอนึกถึงวิถีชีวิตประจำวันและสภาพคล่องทางการเงินของตัวเองแล้ว สิ่งเหล่านั้นยังไม่ค่อยจะสะดวกทำสักเท่าไร แต่พอทำงานนานหลายวันก็อดคิดถึงการเดินทางท่องเที่ยวและการพักผ่อนไม่ได้ บางทีทำงานทุกวันกว่าจะมีวันว่างไปเที่ยวได้ก็ไม่มีเวลาคิดเลยว่าจะต้องไปไหนบ้าง ทั้งที่มีลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวที่ตัวเองอยากไปเป็นร้อยๆที่เลยล่ะ และพอคิดอะไรไม่ออก เชียงใหม่มักจะเป็นคำตอบแรกของเราเสมอ

ติดตามบันทึกการเดินทางต่อๆไปได้ที่ :

GowithAmp

https://facebook.com/GowithAmp

http://gowithampth.com

และครั้งนี้ขอแค่ได้เดินทาง ได้พักผ่อนนอนหลับสบายๆ พักเรื่องงานเรื่องหนักๆไว้สักสองสามวัน อยากอยู่ในเมือง แบบบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ มีสระว่ายน้ำ และต้องมีอาหารอร่อยๆไว้คอยให้บริการ ประจวบเหมาะกับมีคนแนะนำ “Brique Hotel Chiang Mai” มา ซึ่งเป็นโรงแรมอยู่ใน “โครงการเชียงใหม่บิสสิเนสพาร์ค” ที่มีคุ้มขันโตกอยู่ภายในนั่นเอง ตอบโจทย์เราหมดทุกอย่างเลยล่ะค่ะ ทั้งยังเป็นที่พักที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้นเอง แน่นอนว่ายังดูใหม่ สะอาด ทุกซอกทุกมุม

เราใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่นี่ 3 วัน 2 คืน ค่ะ เมื่อมาถึงภายในโรงแรมแล้วจะมี Welcome Drink เป็นน้ำมะตูมหวานเย็นชื่นใจ หลังจากทำการเช็คอินด้วยเวลาอันรวดเร็วแล้วก็ขึ้นมายังห้องพักได้เลย

ที่นี่จะมี 2 อาคารอยู่ติดกัน โดยมีห้องพักประเภทต่างๆอยู่ภายในอาคารทั้ง 2 หลังค่ะ เมื่อเดินเข้าไปตรงกลาง เป็นเค้าน์ตอร์แผนกต้อนรับ และโซนสำหรับนั่งพักที่มีโซฟาและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะไว้ให้บริการ

เมื่อเดินออกไปด้านหลังจะพบกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ริมสระมีเตียงนอนอาบแดด และศาลานั่งพักเก๋ๆ ถัดออกไปจะมองเห็นบึงน้ำขนาดใหญ่มองเห็นวิวสะท้อนน้ำงดงามมาก มองไกลออกไปจากมุมเดียวกันนั้นยังได้เห็นวิวดอยสุเทพด้วยนะคะ นี่แหละใช่ที่สุดสำหรับเราตอนนี้เลย

ส่วนอาคารทางซ้าย ชั้นล่างนี้จะมี “ห้องฟิตเนส” ที่สามารถเข้ามาออกกำลังกายกันได้ทุกวัน 07.00-24.00 น. ไปเลยค่ะ

อีกอาคารหนึ่งทางขวามือจะเป็น Riva Reetaurant อยู่ชั้นที่ 2 เป็นห้องอาหารสำหรับมื้อ เช้า กลางวัน และเย็น เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 6.30 – 22.30 น. แต่มื้อเช้าที่เป็นบุฟเฟ่ต์ ฟรี สำหรับทุกท่านที่เข้ามาพักนั้นจะมีในช่วง 6.30 – 10.30 น. นะคะ ทางเดินจะเป็นบันไดขึ้นลงเชื่อมกับสระว่ายน้ำ มองเห็นสระว่ายน้ำและวิวบึงน้ำขนาดใหญ่ได้ชัดเจน มีหลายมุมให้เลือกนั่งด้วยค่ะ ส่วนเมนูอาหารสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำที่ห้องอาหารแห่งนี้นั้นจะเป็นลักษณะฟิวชั่น และอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือค่ะ

และในอาคารนี้ยังมีห้องอาหารที่เป็นบาร์อีกแห่งหนึ่ง อยู่ชั้นที่ 4 คือ Vento Bar เปิดให้บริการตั้งแต่10.00 – 24.00 น. ที่นี่สามารถขึ้นมานั่งดื่มเครื่องดื่มพร้อมชมวิวในมุมสูงและกว้างกันได้อย่างเพลิดเพลิน เป็นบาร์ที่มีลักษณะกึ่ง Open Air คือไม่มีผนังกำแพงหรือกระจกกั้นเลย ทำให้สามารถนั่งรับลมกันได้ชิลๆ แต่มีพัดลมและแอร์ขนาดใหญ่คอยให้ความเย็นเพิ่มอยู่ ดังนั้นหมดกังวลเรื่องอากาศอบอ้าวไปได้เลยค่ะ สำหรับบรรยากาศของ Vento Bar นั้น เป็นบรรยากาศสบายๆนั่งนานแค่ไหนก็ไม่เบื่อ นอกจากจะได้รับลมภายนอกแล้ว ยังสามารถชมวิวสวยๆของบึงน้ำและวิวดอยสุเทพไกลๆได้อีกด้วย

จะเลือกทานเป็นขนมขบเคี้ยว เบเกอร์รี่ อาหาร หรือจะเป็นเครื่องดื่มก็มีเมนูให้เลือกมากมายเลยค่ะ แอบกระซิบว่าถ้ามีเครื่องดื่มที่ชอบเป็นการส่วนตัวแต่ไม่มีในเมนู สามารถสอบถามได้นะคะ หากมีวัตถุดิบอยู่แล้วล่ะก็ พนักงานที่นี่ใจดีพร้อมทำเสิร์ฟให้ด้วย ส่วนราคาก็จะคิดเป็นราคาใกล้เคียงกับรายการที่มีอยู่ในเมนูค่ะ

มาพูดถึงเรื่องเมนูอันหลากหลายของที่นี่กันค่ะ เริ่มจากเมนูเครื่องดื่ม “รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ” เสียงอันน่ารักสดใสของพนักงานหน้าตาจิ้มลิ้มตามสไตล์คนเมืองเอ่ยถามพร้อมยื่นเมนูเครื่องดื่มที่มีถึง 3 หน้ามาให้ มีเครื่องดื่ม ร้อน เย็น ชา กาแฟ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม คอกเทล ไวน์ ฯลฯ และอีกเมนูที่น่ารักมากๆก็คือ “Coffe Print” ที่ใช้เทคโนโลยีการปริ๊นท์ภาพลงบนฟองนมหน้าถ้วยกาแฟ จะเลือกเป็นโกโก้หรือชาเขียวก็ได้ สามารถนำภาพของตัวเองไปให้ปริ๊นท์ออกมาเป็นเครื่องดื่มส่วนตัวกันได้เลยนะคะ

ส่วนอาหารก็มีหลากหลายเมนูเช่นกัน ทั้งอาหารไทยฟิวชั่น ฟาสต์ฟู้ด หรืออาหารพื้นเมืองก็มีให้เลือกทานกันเยอะมาก ยกตัวอย่าง ที่เราได้ทานไป คือ ปอเปี๊ยะไส้อั่ว อร่อยแบบไม่ต้องมีน้ำจิ้มเลย ทานควบคู่ไปกับผักสดๆที่วางมาด้วยกันแล้วเข้ากันมาก รสไม่จัดจนเกินไป ไม่เลี่ยนด้วยค่ะ แต่ถ้าใครติดทานแบบต้องมีน้ำจิ้มก็สามารถขอได้นะคะ

เฟตตูชินี่ไส้อั่ว เมนูนี้สามารถเปลี่ยนเส้นเป็นเส้นสปาเก็ตตี้ได้นะคะ รสชาติกลมกล่อมลงตัวดีมาก เผ็ดนิดๆจากรสชาติของ พริก เมล็ดพริกไทย กระเทียม หอมกลิ่นสมุนไพรเบาๆ อร่อยดีค่ะ

เชฟสลัด สลัดผักสดๆ ใส่แฮม กรูว์แยร์ชีส เสิร์ฟมากับน้ำสลัดญี่ปุ่น เป็นสลัดผักที่อร่อยมาก!!! ทานกันจนเกลี้ยงจานแทบไม่เหลือสักหยด

ดับเบิ้ลชีสเค้ก ที่ไม่เลี่ยนเลย ทานได้ทั้งคนที่ชอบทานชีส และคนที่ไม่ชอบทานชีสอย่างเรายังว่าอร่อยเลย รสชาติไม่หวานจนเกินไป เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนมาก ใช้ส้อมค่อยๆตักทานทีละนิดๆนะอร่อยมาก!

และอีกเมนูที่อยากแนะนำคือ เซ็ต BBQ Meat Lover Burger แถมฟรีเครื่องดื่มซอฟต์ดริ้งค์ เมนูนี้เราแนะนำอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อ เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่มาก! อัดแน่นมาด้วยเบอร์เกอร์เนื้อ แฮม เบคอน ไข่ดาว ซีส ราดซอสบาร์บีคิวรสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟมาพร้อมกับเฟรนช์ฟรายส์ และผักสดๆ รับรองว่าเด็ด

ประเภทห้องพัก

Deluxe Premier

ขอพามาชมห้อง Deluxe Premier ซึ่งเป็นห้องพักของเราทั้ง 2 คืนนี้ก่อนนะคะ ภายในห้องพักกว้างขวางกำลังดี ด้วยเนื้อที่ 31 ตารางเมตร

เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วทางขวามือเป็นห้องน้ำ มีกระจกกั้นสำหรับโซนเปียก มีผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า และไดร์เป่าผม วางอยู่ในชั้นวางใต้อ่างล้างหน้า

ส่วนทางซ้ายมือมีตู้เสื้อผ้า ตู้เซฟ และเสื้อคลุมพร้อมสลิปเปอร์ 2 คู่

ถัดจากตู้เสื้อผ้าจะเป็นเค้าน์เตอร์เล็กๆสำหรับวางของหน้ากระจกเงา ซึ่งมีอุปกรณ์ต่างๆวางไว้ให้ คือ น้ำดื่ม แก้วน้ำ ชา กาแฟ สำเร็จรูป กระดาษชำระ

ขยับเข้าไปอีกหน่อยจะเป็นสมาร์ททีวีจอใหญ่ โต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งทำงาน

และเตียงนอนคิงไซส์แบบนุ่มของเราที่จัดวางเอาไว้โดยใช้พื้นที่ของห้องได้อย่างลงตัว มีโคมไฟเล็กอยู่ข้างๆหัวเตียงทั้งสองฝั่ง

ข้างเตียงยังมีเก้าอี้โซฟาทำจากไม้พร้อมเบาะนุ่มๆตั้งเอาไว้คู่กับโคมไฟขนาดใหญ่ตรงมุมห้องติดบานกระจกหน้าต่าง

ส่วนระเบียงมีผนังเป็นกระจกกั้นไว้ สามารถเปิดประตูกระจกออกไปยืนชมวิวได้ จากตรงนี้มองเห็นสระว่ายน้ำอยู่ตรงๆเบื้องล่างและบึงน้ำอยู่เยื้องออกไปทางขวามือ

ประเภท Deluxe นอกจาก Deluxe Premier ก็ยังมี อีก 2 แบบ คือ

Deluxe City View

ห้องขนาด 31 ตารางเมตร LED TV 40 นิ้ว มินิบาร์ มีระเบียง เตียงนอน ห้องนั่งเล่น เป็นห้องที่อยู่ฝั่งด้านหน้า คือจะมองเห็นวิวเมือง วิวในโครงการเชียงใหม่บิสสิเนสพาร์ค ห้องป้องกันเสียงด้านนอกได้เป็นอย่างดี จึงหมดกังวลเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอก

Deluxe Lake View

ห้องขนาด 31 ตารางเมตร LED TV 40 นิ้ว มินิบาร์ มีระเบียง เตียงนอน ห้องนั่งเล่น เป็นห้องที่อยู่ฝั่งด้านหลัง มองเห็นวิวสระน้ำและบึงน้ำขนาดใหญ่ มองไปไกลๆจะได้เห็นวิวดอยสุเทพ

Deluxe Corner

ห้องขนาด 36 ตารางเมตร LED TV 40 นิ้ว มินิบาร์ มีระเบียง เตียงนอน ห้องนั่งเล่นเช่นกัน แต่จะมีพื้นที่ห้องขนาดใหญ่กว่า มีผนังและกระจกบานเลื่อนกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นชัดเจน จากห้องตัวอย่างนี้สามารถมองเห็นวิวร้านอาหาร สระว่ายน้ำ และบึงน้ำได้

Suite 2 Bedrooms

ห้องขนาด 50 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย 2 ห้องอน และ 2 ห้องน้ำ เนื้อที่ใช้สอยกว้างขวางมาก เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางมากันเป็นกลุ่มหรือครอบครัว พักผ่อนกันได้อย่างสบายๆ

Premier Suite 2 Bedrooms

ห้องขนาด 50 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย 2 ห้องอน และ 2 ห้องน้ำ เนื้อที่ใช้สอยกว้างขวางมาก เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางมากันเป็นกลุ่มหรือครอบครัว คล้ายกับห้องพักประเภท Suite 2 Bedrooms แต่

AQUA Spa

โซนสปาขนาดใหญ่ ที่มีห้องบริการนวดอโรม่า นวดแผนไทย เก้าอี้นวดไฟฟ้า ห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยก ชาย หญิง อย่างดี บรรยากาศดูดีมาก เมื่อเข้ามาจะได้ยินเสียงเพลงเป็นดนตรีบรรเลงเพราะๆคลอเบาๆ มีพนักงานคอยให้คำแนะนำสำหรับการให้บริการภายในนี้ พนักงานน่ารักมากค่ะ สีหน้ายิ้มแย้มพูดจานิ่มนวลตลอดเวลา

เมื่อนั่งลงเลือกคอร์สสปาจะมีเครื่องดื่มเย็นเป็นชามะตูมมะนาวมาเสิร์ฟพร้อมกับผ้าเย็น

จากนั้นให้กรอกข้อมูลส่วนตัวลงในแบบฟอร์มประวัติลูกค้า มีคำถามที่จำเป็นต่อการนวดซึ่งให้เราระบุประมาณว่า มีอาการแพ้ตัวยาชนิดใดหรือไม่ เป็นโรคภูมิแพ้ไหม ให้เน้นจุดไหนหรือเลี่ยงจุดไหนบ้าง และตามด้วยให้เลือกกลิ่นอโรม่าที่จะใช้ในห้องนวดค่ะ เสร็จสรรพขั้นตอนนี้ก็เดินเข้าห้องนวดได้เลย และจะมีคนนวดเดินตามเข้ามา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

ส่วนเก้าอี้นวดไฟฟ้าและนวดไทยจะอยู่ในห้องใหญ่ห้องเดียวกัน จัดพื้นที่ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อย มีแสงไฟหรี่อ่อนๆ มีแสงจากภายนอกเข้ามานิดๆ เห็นแล้วรู้สึกผ่อนคลายดีมาก

ห้องน้ำนั้นแยกห้อง ชาย หญิง มีชั้นวางรองเท้าและตู้เก็บของอยู่ภายใน ห้องน้ำและห้องอาบน้ำอยู่แยกกันค่ะ ดูกว้างขวางดี

นอกจากนี้ยังมี Meeting Room สำหรับใช้จัดการประชุมหรือสัมนา อยู่บริเวณชั้น 4 ใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 8.00 – 24.00 น.

หรือจะยืมจักรยานของโรงแรมออกไปปั่นดูบรรยากาศภายในโครงการก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ เพียงแค่ลงชื่อไว้ที่บริเวณหน้าฟร้อนท์ เจ้าหน้าที่จะหยิบกุญแจที่มีหมายเลขจักรยานมาให้ เราก็นำไปยื่นให้ รปภ. ที่อยู่ใกล้ๆๆจุดจอดรถจักรยานเพื่อให้ปลดล็อกออกมาเท่านั้นเองค่ะ

อาหารเช้า ณ River Restaurant

ขอพามาชมอาหารเช้าที่มีเมนูให้เลือกทานเยอะมาก ทั้งข้าว กับข้าวแบบผัด แบบต้ม ก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้ม ขนมปัง เครื่องดื่มร้อนเย็น ชา กาแฟ มีหลายเมนูมาก บรรยากาศก็ดีสุด

อาหารเย็น ณ Vento Bar

และอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ที่เราชอบมากๆก็คือ บรรยากาศ Vento Bar ยามกลางคืน กลางวันว่าสวยแล้ว เจอวิวกลางคืนเข้าไปถึงกับหลงรักเลยล่ะค่ะ บรรยากาศดี อาหารอร่อย เครื่องดื่มหลากหลาย บรรยากาศโรแมนติกมาก!!! แสงสีภายในชวนให้หลงใหลเคลิบเคลิ้มสุดๆ วิวรอบนอกมองเห็นบึงขนาดใหญ่ มีแสงไฟจากในเมืองสะท้อนน้ำเป็นภาพที่พาให้อิ่มเอมใจอย่างลงตัว อาหารและเครื่องดื่มก็รสชาติดีไม่แพ้กันนะคะ อาหารอร่อยทุกเมนูเลยจริงๆ