Restaurant

A La Campagne พัทยา ร้านอาหารสไตล์ยุโรปคันทรี่

A La Campagne

พัทยา

ร้านอาหารที่เป็นมากกว่าร้านอาหาร

อะ ลา คอมปาณย์ มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “ณ ที่ชนบท” เป็นร้านอาหารที่เป็นมากกว่าร้านอาหาร การดีไซน์และการตกแต่ง เป็นเรื่องราวสมมุติการค้นพบหมู่บ้านชนบททางยุโรป แล้วปรับปรุงฟื้นฟูขึ้นมาให้มีชีวิตชีวา ด้วยการทำเป็นร้านต่างๆเอาไว้ภายใน โดยคงความงดงามของสถาปัตยกรรมเอาไว้ดังเดิม บรรยากาศอบอุ่น น่าค้นหา มีมุมสวยๆทั่วทั้งพื้นที่ มีโซนต่างๆให้ทำกิจกรรมกันได้ทั้งวัน เหมาะกับทุกเพศทุกวัยจริงๆ

 

ที่นี่เปิดมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะได้เห็นความร่มรื่น เขียวชะอุ่ม จากต้นไม้ใบหญ้าอยู่ทั่ว ต้นไม้แต่ละต้นผ่านการคัดสรรด้วยความใส่ใจ เกิดจากความรักในธรรมชาติของเจ้าของร้านทั้งสิ้น

 

ภายใน อะ ลา คอมปาณย์ ประกอบไปด้วย

1. Tea Factory ร้านอาหารและเบเกอรี่ ในโรงงานชา

2. Shop & Gallery จำหน่ายของใช้ ของฝาก และพืชผลทางการเกษตร

3. ลานน้ำพุและสะพานราวเชือก สำหรับจัดงานอีเว้นท์แบบเอาท์ดอร์ และมีส่วนต่างๆให้เด็กๆเล่นไปพร้อมกับการเรียนรู้

4. อาคารสำหรับอีเว้นท์ ประชุม สัมมนา เป็นตึก 2 ชั้น สามารถจัดงานแต่งงาน โดยใช้พื้นที่ด้านบนสำหรับพิธีสงฆ์ และด้านล่างเป็นงานเลี้ยง

5. The Farm พื้นที่สวนครัว มีกิจกรรมให้ทำด้านใน

6. กิจกรรมต่างๆ

     6.1  S-M-L-XL Farm Activities Package เป็นกิจกรรมที่ให้เด็กได้เรียนรู้การให้อาหารสัตว์อย่างใกล้ชิด เช่น ม้า หมู แกะ ไก่ และสามารถเก็บไข่ไก่กลับบ้านได้ กิจกรรมนี้ไม่รับจองล่วงหน้า สามารถติดต่อที่ร้านได้ในช่วงเวลา 10.00 – 17.00 น.

     6.2 Vegggie Kids Workshop ทำกิจกรรมต่างๆในสวน ตั้งแต่ชมสวนผัก เตรียมดิน ปลูกผัก ใกล้ชิดสัตว์เลี้ยง เก็บไข่กลับบ้าน

      6.3 Tea Workshop @ Tea Factory ให้เลือกเรียนรู้เกี่ยวกับชา เบลนด์ชา คอมบูชา

7. Somtum Villa ร้านส้มตำ ในอาคารสไตล์ยุโรป

8. Le Rouge ร้านไวน์และค็อกเทล


Tea Factory

เป็นร้านอาหารและเบเกอรี่หลากหลายเมนู เฟอร์นิเจอร์ด้านในเป็นสไตล์ยุโรปคันทรี่ มีอุปกรณ์ตกแต่งบางส่วนที่เป็นของสะสม

 

ส่วนของโครงสร้างกับหลังคานั้นจะมีลักษณะคล้ายโรงงานชาในศรีลังกา ให้ความรูสึกอบอุ่น คลาสสิก โรแมนติก ทุกอย่างดูลงตัวมาก

 

มีโต๊ะรองรับมากมายหลากหลายมุม โดยใช้การเลือกเฟอร์นิเจอร์และการประดับตกแต่งให้ได้กลิ่นอาย ยุโรปคันทรี่

 

ที่นี่นำเข้าชาจากต่างประเทศทั้งหมด 8 ประเทศ เช่น ฝรั่งเศส อินเดีย ญี่ปุ่น ศรีลังกา จีน อิสราเอล คอนเซ็ปของอาหารจะเน้นเรื่องสุขภาพ ธรรมชาติ ดังนั้นเมนูชาเกือบทั้งหมดจะเป็นชาแท้ โดยใช้ใบชา ไม่เน้นใช้ชาผง ใช้ผักสดที่ได้จากการปลูกในสวนด้านหลัง และผักปลอดสาร นอกจากความเอร็ดอร่อยแล้ว เราจะสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันและความใส่ใจอย่างดีในแต่ละเมนูด้วย

 

ชาที่เป็นซิกเนอเจอร์ของที่ร้าน คือ ชาเบลนด์ (Blend Tea) เป็นการนำชาตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป หรือชาและวัตถุดิบอื่นๆมาผสมเข้าด้วยกัน การเบลนด์ทำเพื่อรักษาคุณภาพของใบชาที่มีปัจจัยต่างๆ โดยช่วยเพิ่มรสและกลิ่นหอมแตกต่างกันออกไป ชาเบลนด์ที่มีจำหน่ายใน Tea Factry มี La Vie En Rose (ชากุหลาบ) Dimbula Lemon (ชามะนาวลิมบูล่า) Oolong Lychee (ชาอู่หลงลิ้นจี่) Puerh Vanilla (ชาผู่เออร์วานิลลา)

 

ต่อมา คือ คอมบูชา เป็นน้ำชาหมัก หรือที่คนไทยเรียกกันว่าน้ำเอนไซม์ มีสารโพไบโอติก ช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษ และสารเคมีที่ตกค้างในร่างกาย คอมบูชาของที่นี่มีความแตกต่างตรงที่ โดยปกติแล้ว จะนำน้ำชาที่หมักได้มาเบลนด์ปรุงรส แต่ของที่นี่จะปรุงรสก่อนจากนั้นจึงนำไปหมักแล้วบรรจุขวด จึงทำให้ได้รสชาติเข้มข้น


เมนูตัวอย่าง

La Vie En Rose (ชากุหลาบ) เป็นภาษาฝรั่งเศษ แปลว่า ชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบ เจ้าของร้านใช้ชื่อนี้เพราะอยากให้คนที่ได้ลิ้มรสรู้สึกว่า “ฉันมีความสุขทั้งวัน ตลอดไป” ใช้ชาดำจากประเทศอินเดียเบลนด์กับกุหลาบ มีกลิ่นหอมละมุนของชาผสมกับกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ กลมกล่อม รสไม่หนา ดื่มง่าย สามารถดื่มได้ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังอาหาร

 

Green Tea Earl Grey Latte ชาเขียวที่ไม่ได้ใส่สีปรุงแต่ง ได้สีของชาเขียวจากธรรมชาติแท้ๆ กลิ่นหอมคงอยู่ ใช้ชาใบไม่ได้ใช้ชาผง ผสมกับนมและฟองนมนุ่มละมุน หอมกลิ่นชาเขียวและได้รสสัมผัสของนมแบบไม่ข้นมาก เข้ากับมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี

 

French Onion Soup (ซุปหัวหอม) ว่ากันว่าเป็นเมนูพิสูจน์ฝีมือการทำอาหารของฝรั่ง เพราะเป็นอาหารพื้นบ้านที่ฟังดูเหมือนง่ายแต่ทำยาก โดยเชฟของที่ร้านจบจาก เลอ กอร์ดอง เบลอ ประเทศฝรั่งเศส จึงได้สูตรนี้มาจากฝรั่งเศษ ไม่มีกลิ่นฉุนจากหัวหอมแต่ได้รสชาติอร่อยมาก โปะหน้ามาด้วยชีสอบ รสชาตเค็มเล็กน้อย เมื่อทานด้วยกันแล้วถือเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ดีมาก

 

Spaghetti Tea Leaf with Fresh Chili (สปาเก็ตตี้ใบชาหมักผัดพริกสด) เป็นการครีเอทเมนูให้เข้ากับร้านซึ่งเน้นการใช้ชา จึงได้เมนูนี้ขึ้นมาในสไตล์ไทย รสชาติออกเผ็ดจากพริกและเปรี้ยวจากใบชาหมัก ทานได้เรื่อยๆ ไม่เลี่ยน

 

Red Bean Green Tea (เค้กชาเขียวถั่วแดง) เนื้อเค้กชิฟฟ่อนนุ่มๆหอมกลิ่นชาเขียว เป็นเกรดเบเกอรี่ที่มีสีผสมจึงมีสีเขียวแก่จัด แทรกด้วยถั่วแดงกวนเนื้อละเอียด ปาดหน้าด้วยครีมชาเขียว โรยผงโกโก้ และวางทับด้วยแผ่นช็อกโกแลตมีชื่อร้าน รสชาติหวานน้อยแต่กลมกล่อม นุ่มละมุนมาก

 

Thai Tea Fudge (เค้กชาไทยหน้านิ่ม) ลักษณะเนื้อสัมผัสคล้ายกันกับเค้กชาเขียว แต่จะนุ่มละมุนกว่า หอมกลิ่นชาไทยมาก รสชาติหวานน้อย อร่อย ทานได้เรื่อยๆ ใครที่ชอบทานของหวานแต่ไม่ชอบรสหวานมาก แนะนำเมนูนี้เลยค่ะ

 

นอกจากนี้ยังมีเมนูอีกมากมายให้เลือกรับประทาน และตู้เบเกอรี่ตั้งอยู่ภายในร้านอีกหลายเมนู

 

ลานน้ำพุ

เป็นพื้นที่กว้างอยู่บริเวณช่วงกลางๆก่อนถึงฟาร์มด้านหลัง มีน้ำพุและรูปปั้นนางฟ้าเป่าแตรตั้งสูงตระหง่านอยู่ใจกลาง ซึ่งทราบมาว่าใบหน้าของรูปปั้นนางฟ้านั้นมาจากใบหน้าของคุณเก๋ ผูเป็นเจ้าของร้านนั่นเองค่ะ ลานแห่งนี้สามารถทำกิจกรรมหรือจัดอีเว้นท์ได้ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่ง งานเลี้ยง ก็สามารถติดต่อใช้พื้นที่ตรงนี้ได้เช่นกัน

 

ถัดไปจากลานน้ำพุทางด้านหลังนั้น เป็นสะพานราวเชือก หอคอยนกฮูก และสไลเดอร์ สามารถเดินเล่นชมทัศนียภาพในมุมที่แตกต่างได้ เป็นอีกหนึ่งทางเข้าร้านจากด้านหลังที่มีลานจอดรถไว้รองรับอีกจุดหนึ่งด้วย

 

อาคารสำหรับอีเว้นท์ ประชุม สัมมนา เป็นตึก 2 ชั้น สามารถจัดงานแต่งงาน โดยใช้พื้นที่ด้านบนสำหรับพิธีสงฆ์ และด้านล่างเป็นงานเลี้ยง หรือจะเป็นงานเลี้ยงฉลองทั่วไปก็ติดต่อเข้าใช้ได้เช่นกัน


The Farm

โซนนี้จะเป็นแหล่งรวมความรู้ทางธรรมชาติ เหมือนเป็นสวนหลังบ้านให้เด็กๆได้มาเที่ยวเล่นและทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปลูกผัก ให้อาหารสัตว์ เก็บไข่ไก่ และทำอาหารพร้อมรับประทานมื้อค่ำกันภายในนี้ ภายในฟาร์มยังแบ่งออกเป็น 3 โซนย่อยๆ คือ Farm Kids, Veggie Village  และ Terrain โดยสามารถชมตารางกิจกรรมต่างๆกันได้ที่ A La Campange

 

– Farm Kids เหมาะสำหรับเด็กๆ พ้องเสียงกับ “ความคิด” เป็นพื้นที่สำหรับเวิร์กช็อปการปลูกผัก เด็กๆที่ติดต่อเข้ามาทำเวิร์กช็อป สามารถมาเก็บผักไปทำกิจกรรม ประกอบอาหาร ถ้ามาช่วงนี้สามารถเก็บหน่อไม้และไข่ไว้ให้เรียนรู้การทำอาหารต่อไป ช่วงไหนมีอะไรก็จะได้เก็บเกี่ยวสิ่งต่างๆในช่วงนั้นไป มีเวิร์กช็อปสำหรับเด็กๆ ตั้งแต่การเพาะเมล็ดพันธุ์ ปลูกผักลงแปลง แล้วอีก 4 อาทิตย์มานำผักไปวางขายหน้าร้าน ต้องติดต่อเข้ามาเป็นกรุ๊ป 8-10 คน

 

– Veggie Village ผักในสวนจะปลูกไว้หลากหลาย เช่น ต้นอ่อมแซบ กระทกรก เลม่อน สเปียร์มิ้นท์ นำไปใช้ในร้านอาหารได้ บางอย่างใช้ในเมนูพิเศษที่ไม่ได้มีทุกวัน เช่นใช้สำหรับอีเว้นท์งานเลี้ยง งานแต่ง ผักที่ปลูกในนี้ใช้เมล็ดที่ไม่ตัดต่อ GMO เพื่อเก็บไว้เป็นพันธุ์สำหรับขยายต่อไปได้ “แม้จะไม่เหมาะสำหรับการทำธุรกิจนักแต่ทำด้วยใจ” นี่คือสิ่งที่ได้ยินจากปากเจ้าของร้านแล้วรับรู้ได้ถึงพลังบวกกับพลังใจอย่างล้มเปี่ยม ตั้งแต่เรียนเกษตรธรรมชาติที่วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริ ของในหลวง ร.9 แล้วใช้เวลา 3 ปีถึงจะได้ดินที่สามารถปลูกพืชผักได้ เพราะดนบริเวณนี้เดิมจะเป็นดินแห้งแดงและใช้น้ำบาดาลซึ่งเป็นน้ำกร่อย มีการใช้น้ำหมักที่หมักเองจากพืชผักและเศษอาหารที่เหลือใช้นำมารดน้ำต้นไม้เพื่อเป็นปุ๋ย มีการเพาะเลี้ยงไส้เดือนที่มีส่วนช่วยให้ดินเป็นสีดำเหมาะแก่การเพาะปลูก

 

– Terrain เปิดเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ รับเป็นกรุ๊ปให้เข้ามาช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. เริ่มตั้งแต่แนะนำสวน ให้ช็อปปิ้งลิสต์ไปเก็บวัตถุดิบที่จะทำกับข้าว กลับมาเรียนทำกับข้าว เป็นเมนูอาหารไทยแต่เสิร์ฟแบบฝรั่ง มีคอร์ส 6 เมนู รวมของหวาน ซึ่งมีการใช้วัตถุดิบหลักในแต่ละวันแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ว่าวันนั้นจะมีวัตถุดิบไหนอยู่เป็นจำนวนมาก หลังจากที่ปรุงอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสูช่วงดินเนอร์ คือการรับประทานอาหารเย็นร่วมกันในสวน ภายใต้บรรยากาศอันอบอุ่นจากแสงไฟยามค่ำคืน


The Hen House

ถัดออกมาทางด้านหลังมีฟาร์มสัตว์นานาชนิดอยู่ภายในนั้น วันที่มีลูกค้าเยอะทางร้านจะเปิดให้เข้าไปเดินเล่นด้านในได้ แต่จะปิดไว้ในวันที่ลูกค้าไม่เยอะ ถ้าหากต้องการเข้าไปด้านในสามารถบอกทางร้านได้นะคะ

 

ไก่ที่เลี้ยงอยู่ด้านในเป็นไก่ไข่ จะออกไข่ให้เก็บทุกวัน ที่นี่เลี้ยงด้วยการให้อาหารเม็ด และใช้น้ำ EM ผสมน้ำให้ไก่ ไม่ฉีดยาหรือสารเคมี ดังนั้นไข่ไก่ที่ได้จะมีคลอเรสเตอรอลต่ำกว่า วิตามินมากกว่า สามารถเดินเข้าไปเที่ยวชมในฟาร์มได้ แต่ช่วงหน้าฝนไม่ค่อยมีแขกเข้ามาส่วนนี้จะปิดฟาร์มไว้แต่สามารถแจ้งขอเข้าชมอย่างใกล้ชิดได้ มีการติดป้ายเพื่อการเรียนรู้ให้กับที่มาทำเวิร์กช็อป หลังจากที่เรียนรู้เรื่องการเพาะปลูกแล้วสามารถเข้ามาให้อาหารสัตว์และเก็บไข่ไก่กลับบ้าน ซึ่งถ้าหากว่ามาแล้วไม่มีไข่ไก่ให้เก็บก็จะไม่มีให้นำกลับ เพราะไม่มีการนำไข่จากที่อื่นเข้ามา

 

มีม้า 2 ตัว ชื่อว่า gypsy และ gypso (ม้าอังกฤษ พันธุ์ยิปซี ขนยาว) แพะ 1 ตัว ชื่อซูซี่ และน้องหมู น้องห่าน น้องไก่แจ้


Shop & Gallery

จำหน่ายของใช้ ของฝาก และพืชผลทางการเกษตร สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของฝากของดีจากที่ต่างๆที่ได้จากการเดินทางไปท่องเที่ยวในแต่ละที่ของเจ้าของร้าน เป็นจำพวกของใช้ของประดับซะส่วนใหญ่

 

นอกจากนี้ยังมีร้านไวน์ Le Rouge และร้านส้มตำ Somtum Villa จะพาชมบรรยากาศแบบคร่าวๆก่อนนะคะ ขอลงรายละเอียดให้ชมต่อในโอกาสต่อไปค่ะ

 

A La Campagne

ที่อยู่: 21/2 หมู่ 1ต.นาจอมเทียน ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ตรงข้ามอัยการพัทยา ก่อนถึงสี่แยกห้วยใหญ่ บางละมุง ชลบุรี 20250

โทรศัพท์ : 091-783-8772

ช่วงเวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00 – 21.00 น. (ศ. – อา. เปิดถึง 22.00 น.)

เว็บไซต์ : A La Campagne

เฟซบุ๊ก : A La Campagne

ปิดความเห็น บน A La Campagne พัทยา ร้านอาหารสไตล์ยุโรปคันทรี่