Hotel,  travel story

8 พิกัด กิน เที่ยว พัก เชียงใหม่ต้นหนาว (4วัน3คืน)

8 พิกัด กิน เที่ยว พัก เชียงใหม่ ต้นหนาว

(4วัน3คืน)

Family & Friend Trip
เนื่องจากทริปนี้ เป็นทริปพาครอบครัวและเพื่อนเที่ยว แผนการเดินทางอาจจะไม่เยอะมาก และใช้เวลาไปกับการเดินทางค่อนข้างเยอะเพราะต้องการเก็บสถานที่ที่พวกเราอยากไป ซึ่งแต่ละที่นั้นสวยๆฟินๆแบบที่ กินไม่เคยไปก็ชอบ คนเคยไปก็ชอบแน่นอน

1. บ้านพักดอยอินทนนท์ ขุนเล่าลือ

เดินทางถึงสนามบินเชียงใหม่ช่วงบ่าย หลังจากรับรถแล้วจึงมุ่งหน้าสู่ ดอยอินทนนท์ เพื่อเข้าที่พัก คือ บ้านพักดอยอินทนนท์ ขุนเล่าลือ ซึ่งเป็นที่พักคืนแรกของพวกเรา
แอมดูหลายๆที่และสรุปเป็นที่นี่ด้วยความลงตัวทั้ง วิว บรรยากาศ ช่วงหน้าฝนถึงหน้าหนาว บางวันจะมองเห็นหมอก เพราะทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีวิวเขาสวยๆ
เหมือนถูกโอบล้อมไว้ด้วยธรรมชาติอันสดชื่น อากาศเย็นตลอดทั้งปี และราคาไม่แรง
ขับรถขึ้นดอยอินทนนท์ทางอำเภอจอมทอง ผ่านด่านเข้าอุทยาน จุดตรวจที่ 1 ไป แล้วเลี้ยวขวาทางไปบ้านขุนกลาง แล้วเลี้ยวซ้ายซอยแรก หรือปักหมุดตามทางเข้าไปได้เลยค่ะ
แถวๆหมู่บ้านมีร้านอาหาร หรือจะสั่งหมูกระทะ อาหารตามสั่ง กับทางที่พักได้เลยนะคะ เขาจะสั่งเข้ามาให้ค่ะ วันที่ไปตรงกับวันคล้ายวันเกิดของเพื่อนที่ไปด้วยกัน แอมฝากเจ้าของที่พักซื้อเค้กไว้ให้ เขาใจดีมาก ช่วยจัดการและดูแลอย่างดี รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
อาหารเช้ามี ข้าวต้ม โอวัลติน กาแฟ ข้าวต้มรสชาติอร่อยดีค่ะ เช้าๆอากาศเย็นได้ทานอาหารร้อนๆคือดีที่สุดเลย
ราคา:  800 บาท/2คน และ 1,000 บาท/3คน มีบ้านหลายหลังหลายรูปแบบ
โทรศัพท์: 063-106-9928 ได้เลยค่ะ

2. ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย บ้านผาหมอน

“ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย” ในเชียงใหม่อีกแห่งที่ใกล้กว่าเดิม คือที่ สวนคุณทองดี บ้านผาหมอน ดอยอินทนนท์ นั่นเองค่ะ
การเดินทาง : ขับรถขึ้นดอยอินทนนท์ทางอำเภอจอมทอง ผ่านด่านที่ 1 ไปเรื่อยๆ สังเกตขวามือจะมีป้ายบอกทางเข้าไปยัง “บ้านผาหมอน” เป็นทางแคบๆไล่ไฟล่เขาเข้าไปเรื่อยๆ โดยจะผ่านบ้านหนองหล่มเข้าไปก่อนนะคะ จนกระทั่งพบกับป้ายบอกทาง(เขียนด้วยมือ) เขียนบอกไว้ว่า “ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย” พร้อมกับลูกศรชีทาง ขับรถตามทางเข้าไปเรื่อยๆกระทั่ง เลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้านผาหมอน ขับตรงตามทางไปยัง “ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง” อยู่ใกล้กับสถานีอนามัย แล้วจอดรถทิ้งไว้บริเวณนั้นได้เลยค่ะ
จากนั้น โทรหาคุณทองดี จะมีรถขับเคลื่อน 4 ล้อมารับเข้าไปยังทุ่งดอกไม้ที่อยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตรอีกทีค่ะ ระหว่างทางเข้าไปช่วงนี้ ถนนขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ เฉอะแฉะ และค่อนข้างคดเคี้ยว แต่วิวสองข้างทางคือดีมาก
และเมื่อถึงแล้ว ทั้งอากาศ และบรรยากาศ ดีมาก ดีจนใช้เวลาอยู่กันที่นี่นานเลยล่ะค่ะ
ที่ตั้ง: บ้านผาหมอน ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
ค่าใช้จ่าย: เหมารถ 350 บาท / เข้าสวนคนละ 50 บาท / เช่ากระบุงดอกไม้ 20 บาท
โทรศัพท์: คุณทองดี 089-998-4624

3. ไร่ชาดอยอินทนนท์

ครั้งนี้มีโอกาสได้แวะไปเก็บรูปที่ ไร่ชาดอยอินทนนท์ Doi Inthanon Tea Partnership เป็นอีกจุดที่เพิ่งเปิดให้เข้าชมได้ไม่นาน แต่แนะนำเลยค่ะ
– จองวันเข้าชมผ่านเพจของไร่ก่อนไปเท่านั้นนะคะ
– เปิด gps พิมพ์คำว่า “ไร่ชาดอยอินทนนท์” แล้วขับตามพิกัดไปได้เลยค่ะ อยู่ทางอำเภอแม่วาง หรือทางไปขุนวางนั่นเอง
– ไร่ชามีเนื้อที่ไม่กว้างนัก แต่สวยงามด้วยพื้นที่ลาดชันเล็กน้อยตามเชิงเขา เข้าไปถ่ายรูปสวยๆได้หลายมุมมอง
– จอดรถไว้ด้านล่าง แล้วเดินขึ้นไปไม่ไกลก็จะเจอทางเข้าไร่แล้ว
– ค่าเข้าชม คนละ 50 บาท
– มีเขาสูงเป็นฉากหลัง บางช่วงมีสายหมอกขาวๆลงมาตัดกับสีเขียว สวยงามมาก
– มีพร็อพให้ยืมใช้ เช่น ร่ม รองเท้าบูท กระบุงเก็บใบชา ตะกร้าและกรรไกรตัดเลม่อน
– สวนเลม่อนเป็นสวนเล็กๆอยู่ข้างไร่ชา ดูไม่อลังตระการตานัก แต่รับรองว่าได้รูปสวยๆเพียบ!
– ควรระวังหนามเลม่อน ไม่น่ากลัว แค่ค่อยๆเดินเข้าไปก็พอ
– การเก็บเลม่อน ต้องใช้ตัดขั้วให้ชิดลูก และห้ามให้มือปลิดออกจากขั้วนะจ๊ะ
– ระวัง “คุ่น” กัดด้วยนะคะ <โดนกัดมา 2 จุด เบาๆ> คุ่นจะบินต่ำ กัดตามขา หรืออาจจะบินสูงมาแขนด้วย แนะนำให้ใช้ยากันยุงที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้น้อง มิ้น ผึ้ง ที่คอยบินดมผสมเกสรใบชา ตายหรือสาหัสไปด้วย
– มีชาต่างๆ และน้ำเลม่อนจำหน่ายในราคาไม่แพง
โทรศัพท์: 063-826-4111

4. ม่อนหมอกฟ้าโฮมสเตย์ ม่อนแจ่ม

จากดอยอินทนนท์ เราไปต่อกันที่ม่อนแจ่ม … ค่ะ ไกลกันมาก และปกติแล้วเวลามีใครถามแพลนเที่ยวเชียงใหม่ แอมจะให้เลี่ยงการเที่ยวสองที่นี้ต่อกัน แต่ทริปนี้ แอมต้องจัดต่อกันเอง ฮ่าๆๆๆ เพื่อนอยากไปก็ต้องได้ไปค่ะ ^^
ที่พักคืนที่สองของเราคือ ม่อนหมอกฟ้าโฮมสเตย์ ม่อนแจ่ม แถวๆนั้นมีที่พักเยอะมาก แต่พวกเราอยากนอนที่วิวสวยและมีดอกไม้ ที่นี่จึงเป็นคำตอบค่ะ
ราคาก็ไม่แรงมากด้วย เริ่มต้น พันต้นๆ แล้วแต่ฤดูกาลด้วยนะคะ
ที่พักจะมีแบบเต็นท์กระโจม เต็มท์โดม บ้านโมเดิร์น และบ้านแคปซูน
ที่นี่จะปลูกดอกไม้ตลอดค่ะ โดยหมุนเวียนไปเรื่อยๆ เช่น ดอกเวอร์บีน่า ดอกมาร์กาเร็ต ดอกเก็กฮวย เป็นต้น เรียกว่าจะไปช่วงไหนก็ได้เจอดอกไม้
มีหมูกระทะให้บริการด้วยนะคะ ชุดละ 450 มีเครื่องครบ กินแบบอิ่มๆได้ 2 คน ใครจะซื้อของไปเพิ่มก็ได้ และเพิ่มเตา+กระทะ 100 บาทค่ะ
อาหารเช้า มีข้าวต้มหมู ไข่ต้ม โอวันติล กาแฟ นั่งทานท่ามกลางบรรยากาศสุดฟิน
เดินเล่นชมวิวได้ชิลๆ มีลานให้เดินกว้างขวาง มองเห็นวิวแบบสวยๆละลานตารอบด้าน ที่จอดรถเพียงพอ
เต็นท์และบ้านแต่ละหลังจะมีห้องน้ำในตัว ไม่ต้องใช้รวมกับใคร สบายใจได้จ้า
เช้าๆ บางวันมองเห็นทะเลหมอก ฟินยิ่งกว่าฟินไปอีก
โทรศัทพ์: 082-897-6468

5. Nightingale Chiang Mai

เป็นคาเฟ่ที่อยากไปอีกแห่งหนึ่ง อยู่ระหว่างทางลงจากม่อนแจ่มเข้าเมืองด้วย จึงไม่พลาดจับใส่ลิสต์ครั้งนี้
บรรยากาศรอบร้านดีมาก ได้รับการตกแต่งด้วยสไตล์ Classic เซ็ตมุมและอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆไว้สำหรับถ่ายรูปเยอะมาก
หลายๆมุมให้อารมณ์เหมือนอยู่ยุโรป สวยสง่า ได้รูปสวยกลับมาเยอะแน่นอนค่ะ
มีบริการ อาหารคาวหวาน และเครื่องดื่ม ที่ราคากลางๆ แต่รสชาติอร่อยจริง
ทีแรกคิดว่าจะแวะเข้าไปถ่ายรูป อาจจะสั่งเครื่องดื่มนิดหน่อย แต่พอเห็นเมนูอาหารที่มีให้เลือกค่อนข้างเยอะแล้ว จึงตัดสินใจทานทั้งคาวทั้งหวานเลยค่ะ
ผัดไทยกุ้ง / Fish&Chip / ข้าวราดแกงฮังเล / แครอทชีสเค้ก / บลูเบอร์รี่สมูทตี้ ที่พวกเราได้สั่งมาทานกัน บอกได้แค่ “อร่อยทุกเมนู” โดยเฉพาะ เค้กแครอท แอมและพี่สาวชอบกันมาก!!!! รสชาติกลมกล่อม หอมชินนาม่อน ได้รสชีสตัด คือลงตัวมาก
โทรศัพท์: 065-415-9650

6. Mont Blanc Patisserie

สวรรค์สำหรับคนชอบทานเค้กฝรั่งเศสสไตล์ญี่ปุ่นโดยแท้ เขามีหลายสาขาด้วยนะคะ ทั้งเชียงใหม่และกรุงเทพ แอมชอบร้านนี้ตั้งแต่ตอนไปทานที่ถนนนิมมานเหมินทร์เมื่อ 7-8 ปีก่อน แต่ตอนนี้ที่นั่นปิดไปแล้ว และมีสาขาใหม่อยู่ที่ริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ไม่ไกลจากแยกข่วงสิงห์ ปักหมุดตามพิกัดไปได้เลยค่ะ
เค้กและขนมปัง มีให้เลือกทานหลากหลายรสชาติ แต่ละชิ้นมีรูปร่างหน้าตาสวยงามทุกชิ้น
ราคากลางไปถึงสูง รสชาติอร่อยเข้มข้น
มีที่นั่งทั้งในร้านและด้านนอกให้นั่งทานนั่งชิล
โทรศัพท์: 099-137-4440

7. ลาบบังเกอร์

ร้านนี้คือดีต่อเงินในกระเป๋า เพราะเขาขายจานละ 10 บาท ใช่ค่ะ แค่ 10 บาท!!! ดูรีวิวจากที่ไหนมาสักที่แล้วลงลิสต์สถานที่อยากไปเอาไว้ตั้งแต่ก่อนทริปจะเริ่ม ก็เลยจัดลงไว้ในทริปนี้ด้วย ค่ะ ด้วยความที่อยากลอง ฮ่าๆๆ
แต่จะบอกว่า เมื่อได้เสิร์ชหาข้อมูลดู รีวิวเยอะมากนะจ๊ะ
มี 2 สาขา คือ สาขาแรกอยู่ที่ ถนน เชียงใหม่-ลำพูน ใกล้ๆค่ายกาวิละ เปิด 16.00 – 24.00 น.
และอีกสาขา ชื่อ ลาบบังเกอร์ by ช.ช้าง อยู่ที่ ถนน พระปกเกล้า เปิด 12.00 – 22.00 น.
แอมเลือกไปสาขาแรกค่ะ ร้านอยู่ติดถนน มีที่จอดรถสะดวกดี ร้านจะเป็นแบบบ้านๆ ดูธรรมดาๆ เหมือนร้านริมถนนทั่วไป แต่ดูคลาสสิก มีความเป็นเอกลักษณ์ ที่นั่งค่อนข้างเยอะ
มีใบรายการอาหารให้ติ๊กออเดอร์ ทุกเมนู แค่ 10 บาท ยกเว้นต้มซุปเปอร์ 20 บาท นะจ๊ะ
รายการอาหารจะเป็นอาหารพื้นเมืองเน่อเจ้า มี ลาบหมูดิบ / ลาบเนื้อดิบ / ลาบหมูสุก / ลาบเนื้อสุก / ส้าเนื้อดิบ / ส้าเนื้อสุก / หมูกระจก / แกงอ่อมเนื้อ / แอ๊บหมู / แอ๊บอ่องออ / แอ๊บปลาสวาย / แอ๊บกุ้ง / ไข่ต้ม / ไข่ป่าม / จิ้นส้มหมกไข่ / ห่อหมกกุ้ง / ไส้อั่ว / สามชั้นคอหมูย่าง / ข้าวเหนียว / ข้าวสวย
แอ๊บ จะคล้ายๆห่อหมกค่ะ
แอ๊บอ่องออ คือแอ๊บสมองหมู
จิ้นส้ม คล้ายแหนม
อร่อยทุกอย่าง รสชาติกลางๆ ไม่เน้นรสจัด ทานได้ทุกคนค่ะ โดยเฉพาะต้มซุปเปอร์ตีนไก่ คือ ดี และสิริรวมราคาไม่แพง
โทรศัพท์: 086-180-8028

8. วัดพระธาตุดอยสุเทพ

คืนที่สามพวกเรานอนในเมืองโดยจองผ่านแอปพลิเคชั่นสำหรับจองที่พักมาล่วงหน้า เช้าเช็คเอ๊าท์และมุ่งหน้าสู่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ
แต่เนื่องจากเวลาเรามีค่อนข้างจำกัด เพราะจองตั๋วบินขากลับไปช่วงเที่ยง อีกอย่างใช้เวลาในการขับรถขึ้นลงดอยค่อนข้างนาน จึงทำให้พาทุกคนไปถึงเพียงบันไดทางขึ้น และรีบทำเวลากันสุด ฮ่าๆๆๆ
ส่วนตัวแอมเองมาที่นี่สองสามรอบแล้ว และเคยไหว้ขอพรเอาไว้ว่า ขอให้ได้พบเนื้อคู่ แล้วจะพาเนื้อคู่ขึ้นไปไหว้ด้วยกัน ผ่านไปเกือบ 9 ปีแล้ว ยังไม่ได้พาใครไปไหว้เลย ครั้งนี้ก็เกือบ แต่ขึ้นไปไม่ถึง
ต้องหาโอกาสพาแม่และครอบครัวขึ้นไปให้ถึงองค์พระธาตุด้านบนในทริปต่อไปแล้วแหละค่ะ

 

ทริปนี้เราใช้รถจาก AVIS Thailand เลือกเป็นรถ 7 ที่นั่ง สำหรับ 6 คนค่ะ นั่งและวางของกันได้แบบสะดวกสบาย ขับทางไกลเป็นร้อยกิโลเมตรก็สบาย เพราะรถเขาใหม่ทุกคันนะคะ และรู้สึกวางใจกับเอวิสมาก

 

มีให้บริการรถเช่า ทั้งแบบขับเอง แบบพร้อมคนขับ และรถตู้ รถลีมูซีน พร้อมคนขับด้วย ที่สำคัญคือ มีหลายสาขาทั่วประเทศเลยค่ะ

ปิดความเห็น บน 8 พิกัด กิน เที่ยว พัก เชียงใหม่ต้นหนาว (4วัน3คืน)