Trick&Tip

35 เรื่อง ที่ควรรู้ก่อนเที่ยวสิงคโปร์

   35 เรื่อง ที่ควรรู้ก่อนเที่ยวสิงคโปร์

 

  1. ชาวสิงคโปร์มีหลายเชื้อชาติ ทั้งจีน มาเลเซีย อินเดีย และอื่นๆ รัฐบาลจึงกำหนดให้ภาษาราชการมี 4 ภาษา  คือ  อังกฤษ  จีนกลาง  มลายู  และทมิฬ  โดยมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการติดต่อธุรกิจ  เป็นภาษากลางในการสื่อสารระหว่างคนต่างเชื้อชาติ  และเป็นภาษาหลักที่ใช้ในโรงเรียน  โดยเป็นภาษาแรกที่สอนในโรงเรียนสิงคโปร์ตั้งแต่  พ.ศ. 2530
  2. สิงคโปร์ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรมลายู ไปทางทิศใต้จากไทย กล่าวคือ ถ้าดูจากแผนที่ ถัดจากจากประเทศไทยไปทางทิศใต้จะเป็นมาเลเซีย และสิงคโปร์ ตามลำดับ
  3. ลักษณะภูมิประเทศ มีอากาศร้อนชื้นคล้ายประเทศไทย อุณหภูมิเฉลี่ย 23-33 องศาเซลเซียส มีฝนตกชุก
  4. สกุลเงินที่ใช้คือ ดอลล่าสิงคโปร์ (S$, SGD) 1 ดอลล่าสิงคโปร์ เท่ากับ ประมาณ 25 บาท (ขึ้นอยู่กับค่าเงินในแต่ละช่วง)
  5. คนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เพราะสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกสมาคมอาเซียน สามารถอยู่ได้นานถึง 30 วัน นับจากวันที่เดินทาง ใช้แค่พาสปอร์ตที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป หากต้องการอยู่นานกว่าที่กำหนดสามารถติดต่อขอทำวีซ่าได้ที่ สถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย หรือสอบถามได้ที่ 02-286-2111 หรือ 02-286-1434
  6. เวลาที่ประเทศสิงคโปร์ เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
  7. ควรปริ๊นท์เอกสารแสดงการสำรองที่นั่งทั้งขาไปและขากลับพกติดตัวไว้ด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ของสายการบินต้นทางที่เราขึ้นจากประเทศไทย อาจจะขอดูข้อมูลเที่ยวบินขากลับ
  8. ในสนามบินชางฮี (Changi Airport) มีทั้งหมด 3 เทอร์มินอล มีรถไฟให้บริการระหว่างเทอร์มินอลฟรี
  9. ทุกๆเทอร์มินอลในสนาบินชางฮีจะมี Immigration หรือ ตม. (ตรวจคนเข้าเมือง) ลงเทอร์มินอลไหนให้ผ่าน ตม. ที่เทอร์มินอลนั้น สามารถไปผ่าน ตม. ที่เทอร์มินอลอื่นได้ แต่อาจจะถูกซักถามและโดนตำหนิจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
  10. ที่สนามบินชางฮีมี Free Wifi แต่ต้องขอรหัสผ่าน สะดวกที่สุดคือขอจากเครื่องอัตโนมัติ ใช้พาสปอร์ตสแกนแล้วจะมีข้อมูลขึ้นมา
  11. รถไฟฟ้า ไป-กลับ ระหว่างสนามบินชางฮีและเมืองสิงคโปร์ ต้องไป ขึ้น-ลง ที่เทอร์มินอล 2
  12. ต้องขึ้นรถไฟฟ้าจากสนามบินชางฮีมาลงที่สถานี Tanah Merah แล้วเปลี่ยนขบวนไปต่อ ซึ่งมี 2 สายด้วยกัน คือ สายที่ไป Joo Koon และ Pasir Ris
  13. บัตร EZ Link คุ้มที่สุดจากบัตรที่ใช้สำหรับการขึ้นรถโดยสารในสิงคโปร์ทั้งหมด 4 แบบ EZ Link ใช้ได้กับรถไฟฟ้า รถแท็กซี่ รถเมล์ สามารถใช้ซื้อของได้ตามร้านสะดวกซื้อที่มีสัญลักษณ์ รวมถึง 7-11 แถมยังมีส่วนลดให้ในทุกๆการใช้บัตรอีกด้วย
  14. ค่าครองชีพที่สิงคโปร์ค่อนข้างสูง เพราะฐานเงินเดือนในประเทศสูง ข้าวของทุกอย่างจึงดูแพงไปด้วย
  15. การเดินทางภายในสิงคโปร์สะดวกมาก โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและรถเมล์
  16. การใช้บริการรถเมล์ สามารถดูสายรถเมล์ได้จาก Google Map โดยเลือกต้นทางเป็น “ตำแหน่งที่คุณอยู่” และปลายทางเป็นสถานที่ที่เราต้องการไป จากนั้นเลือกวิธีการเดินทางเป็นขนส่งสาธารณะ (สัญลักษณ์เป็นรถไฟอยู่ใต้ช่องปลายทาง) แล้วจะมีสายรถเมล์ขึ้นมาพร้อมบอกเวลาที่รถจะมาถึง
  17. รถเมล์ที่สิงคโปร์ตรงเวลามาก มีทั้งแบบชั้นเดียว และสองชั้น
  18. การขึ้นรถเมล์ ต้องขึ้นประตูหน้า เอาบัตร(พาสต่างๆที่มีอยู่)ทาบไปหน้าเครื่องที่ติดอยู่ตรงเสาในรถ เพื่อให้รู้ว่าเราเริ่มต้นที่สถานีนี้ จะมียอดเงินคงเหลือในบัตรแสดงที่หน้าจอ ส่วนขาลง ต้องลงประตูหลัง เมื่อถึงสถานีที่จะลงแล้วต้องทาบบัตรไปหน้าเครื่องที่อยู่ตรงเสาสำหรับขาลงด้วย ที่หน้าจอของเครื่องจะแสดงทั้งราคาค่าโดยสาร และยอดเงินคงเหลือ
  19. ที่พักแบบห้องส่วนตัวราคาหนึ่งพันปลายๆขึ้นไป ถ้าราคาถูกๆจะเป็นโฮสเทล ห้องพักรวม (เลือกจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์เอเจนซี่จะได้ราคาดีกว่า)
  20. การขึ้นลงบันไดที่สิงคโปร์จะต้องชิดซ้าย ต่างกับเมืองไทยที่ชิดขวา
  21. น้ำดื่มที่สิงคโปร์แพงมาก แนะนำให้เตรียมขวดน้ำเปล่าๆติดกระเป๋าไปด้วย เพราะจะมีเครื่องกดน้ำดื่มสะอาดอยู่ตามจุดต่างๆ ถ้าจะซื้อควรซื้อในซุปเปอร์ หรือร้านขายของชำ ราคาขวดใหญ่ขวดละประมาณ 1 เหรียญ ถ้าซื้อในเซเว่นจะแพงกว่า
  22. ระบบไฟฟ้าที่สิงคโปร์เหมือนกับไทยคือ 220-240 โวลต์ แต่ว่าเต้าเสียบปลั๊กไฟของสิงคโปร์จะมีลักษณะเป็น 3 ขาแบบเหลี่ยมดังนั้นต้องเตรียม หัวปลั๊ก หรืออะแดปเตอร์ซึ่งเป็นแบบหัวใหญ่ (Travel Universal Adaptor) ที่มีขายอยู่ตามร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป ใน 7-11 บางร้านจะมีจำหน่าย
  23. ของในร้าน Daiso ที่สิงคโปร์แค่ 2 เหรียญ หรือประมาณ 50 บาท (อยู่ในห้าง Vivo city ชั้น L3)
  24. ถ้าอยากได้รูปมุมสูง ต้องขึ้นไปบนตึกสูงๆแวดล้อม Marina Bay หรือขึ้นไปที่ Marina bay sands (ตึกเรือ) แต่อาจต้องเสียเงินขึ้นไป
  25. Garden by the bay เข้าไปในสวนได้ฟรี สามารถเดินชมได้หลายจุด แต่ถ้าเข้าโดมจะเสียเงิน (Flower dome และ Cloud Forest)
  26. ION Sky อยู่บน ION Orchard จุดชมวิวไออ้อนสกาย สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองได้ (ตอนนี้ ปิดปรับปรุงถึงเดือนตุลาคม 2560)
  27. Sentosa เกาะเซ็นโตซ่า ปกติมีค่าเข้า 1เหรียญ แต่ช่วงนี้เข้าฟรีถึงปลายปี 2560 นี้เลย
  28. เครื่องเล่นในเกาะเซนโตซ่า รวมถึง Universal Studio ต้องซื้อพาส ซึ่งพาสทั้งหมดหากซื้อในเว็บ Singapore FanClub ไว้ก่อนจะถูกกว่า หรือซื้อผ่านเอเจนซี่เจ้าอื่นๆที่ไว้วางใจก็ได้ อีกทางหนึ่งคือไปซื้อหน้าทางเข้าเลย
  29. ภายในเกาะเซนโตซ่า มี sentosa exprees และรถบัสไว้คอยให้บริการฟรี
  30. ในเกาะเซนโตซ่า อาหารแพงมาก แพงกว่าข้างนอก 2-3 เท่า ถ้าให้ดี กินทั้งไปและกลับใน vivo city ดีที่สุด
  31. Maxwell Food Center ในย่านไชน่าทาวน์ เป็นเหมือนฟู้ดคอร์ดท้ายตลาด เป็นโดมเปิด ไม่มีแอร์หรือพัดลม ร้อนมาก ของกินแพงทุกร้านเพราะนักท่องเที่ยวชอบแนะนำให้ไปกัน
  1. ศูนย์อาหารในย่านไชน่าทาวน์อีกจุด คือ Chinatown Complex ชั้น 2 อยู่หลัง วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) มีร้านอาหารหลากหลาย ที่นั่งเยอะ มีพัดลม ส่วนใหญ่ราคาถูกกว่า Maxwell Food Center ดูน่ากินกว่า
  2. ย่านเติ้ลอินเดีย จะเหม็นกลิ่นแขกมาก คนเยอะโดยเฉพาะพวกชาวอินเดียที่อาศยอยู่ในย่านนั้น ตามทางเดินมีขยะ บางจุดมีกลิ่นปัสสาวะ ย่านทั่วไปทั่วไปในเมืองจะดูสวยงามมาก แต่ย่านนี้จะแตกต่าง
  3. สามารถขอคืนเงินภาษีที่เรียกว่า GST(Goods and Services Tax) จำนวน 7% ได้ เมื่อซื้อสินค้าเป็นจำนวนเงินมากกว่า 100 เหรียญขึ้นไป รวมใบเสร็จได้ไม่เกิน 3 ใบ กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ สังเกตป้าย Tax Free หรือ Global Blue Tax Free ถ้าไม่แน่ใจให้สอบถามพนักงานในร้านก่อน ซึ่งห้างใหญ่ๆดังๆในสิงคโปร์ทั้งหมดมักจะขอ Tax Refund ได้ หลังจากชำระเงินค่าสินค้าแล้วพนักงานจะขอ passport ของเราเพื่อไปแนบสลิปสำหรับการขอคืนภาษีที่เรียกว่า “eTRS Ticket” ซึ่งจะมีรายละเอียดของสินค้าที่ซื้อ จำนวน ราคา และภาษีที่จะได้คืนมาให้ เพราะต้องใช้ในวันที่จะเดินทางกลับ เราต้องนำไปทำเรื่องขอภาษีคืนที่สนามบินเอง
  4. Lucky Plaza เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีร้านขายของฝากและช็อกโกแลตอยู่เยอะ ราคาไม่แพงด้วย อยู่ถนนออร์ชาร์ด

 

 

ปิดความเห็น บน 35 เรื่อง ที่ควรรู้ก่อนเที่ยวสิงคโปร์